ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เยือนฟิลิปปินส์เป็นเวลาสองวัน ระหว่างวันที่ 21-22 พ.ย. กระชับสัมพันธ์ใกล้ชิด ทิ้งความเป็นปฏิปักษ์ในศึกพิพาทกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีนใต้
นับเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปีที่ประมุขแห่งรัฐแดนมังกรมาเยี่ยมเยือนแดนตากาล็อก ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นของพิธีการต้อนรับอย่างเอิกเกริก ก่อนที่จะมีการลงนามในข้อตกลงหลายฉบับ
สื่อในฮ่องกงเซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ได้นำเสนอ 5 เรื่อง ที่น่าจับตาดูระหว่างที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เยือนฟิลิปปินส์ ดังนี้
1) ข้อตกลงร่วมสำรวจแก๊สและน้ำมัน
การบรรลุข้อตกลงการสำรวจแก๊สและน้ำมันในทะเลจีนใต้ นับเป็นหัวใจของความร่วมมือจีนกับฟิลิปปินส์ ในเดือนม.ค. ฟิลิปปินส์ได้กำหนดบริเวณที่จะทำการสำรวจแก๊สและน้ำมันไว้ 2 โซน เดือนถัดมาฟิลิปปินส์และจีนได้ตั้งทีมทำงานพิเศษเพื่อกำหนดการสำรวจฯในเขตพิพาทกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนทะเลจีนใต้
ทั้งนี้ คู่กรณีในศึกพิพาทกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนเกาะทะเลจีนใต้ ได้แก่ บรูไน มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ จีน และไต้หวัน ในปี 2013 ฟิลิปปินส์ยื่นคำร้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ คัดค้านการอ้างสิทธิ์ของจีนเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ และศาลได้ตัดสินให้ฟิลิปปินส์เป็นฝ่ายชนะ
มาบัดนี้ ฟิลิปปินส์ภายใต้การนำของประธานาธิบดีดูแตร์เตหันมาออมชอมกับจีน ทีมทำงานพิเศษจะต้องขจัดอุปสรรคทางกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายฟิลิปปินส์ห้ามบริษัทต่างชาติขุดค้นทรัพยากรในเขตน่านน้ำทะเลของประเทศ อีกทั้งกระแสต่อต้านภายในประเทศ
ข้อตกลงการสำรวจแก๊สและน้ำมันร่วมกับฟิลิปปินส์ มีความสำคัญต่อจีน เนื่องจากจะเป็นโมเดลสำหรับความร่วมมือในอนาคต กับคู่กรณีที่อ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนในทะเลจีนใต้รายอื่น เช่น เวียดนาม
2)โครงการเขื่อน
จีนได้ให้เงินช่วยเหลือระบบชลประทานในฟิลิปปินส์ภายใต้ “ความริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ในเดือนนี้คาดว่าทั้งสองจะลงนามข้อตกลงเงินกู้สำหรับโครงการเขื่อน Kaliwa ในจังหวัดเกซอน (Quezon) ซึ่งเป็นโครงการที่จะช่วยลดความเสี่ยงขาดแคลนน้ำในเมืองหลวงมะนิลาในอนาคต แต่ชาวฟิลิปปินส์จำนวนมากต่อต้านโครงการฯนี้ ด้วยความวิตกด้านสิ่งแวดล้อม และหนี้สินจำนวนมหาศาล ที่ฟิลิปปินส์จะต้องดิ้นรนหามาชำระหนี้
3)แหล่งป้อนอาวุธยุทโธปกรณ์
เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา จีนได้บริจาคปืนและกระสุน มูลค่า 22 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ อาวุธเหล่านี้ ประกอบด้วย ไรเฟิล M4 จำนวน 3,000 กระบอก กระสุนนานาชนิด 3 ล้านตับ กล้องติดปืน 30 อัน โดยบางส่วนจะถูกนำไปใช้ต่อสู่กับลัทธิก่อการร้าย ขณะนี้กลุ่มนักสังเกตการณ์กำลังจับตาดูว่าระหว่างการเยือนของสี จะมีการตกลงสัญญาเพิ่มอาวุธหรือไม่ เนื่องจากความเคลื่อนไหวนี้ จะยิ่งทำให้ฟิลิปปินส์ห่างเหินจากวอชิงตัน
4)ยามฝั่ง
ลูกเรือเรือประมงฟิลิปปินส์ มักบ่นเกี่ยวกับกิจกรรมพิทักษ์ชายฝั่งของจีน การเยือนของสีครั้งนี้อาจช่วยคลี่คลายปัญหานี้
ในเดือนพ.ค. ยามฝั่งจีนได้จับฝูงเรือประมงฟิลิปปินส์ที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวเกาะปะการังสการ์โบโรห์ ซึ่งเป็นเขตควบคุมของจีน ด้านมะนิลาออกโรงประท้วง ในที่สุดก็ตกลงอนุญาตให้เรือประมงฟิลิปปินส์เข้าไปหาปลาในบริเวณดังกล่าว แต่เป็นเรื่องที่จะดูต่อไปว่ายามฝั่งจะจัดการอย่างไรในอนาคต
5)สหรัฐอเมริกา
หากสองฝ่ายลงนามข้อตกลงยุทธศาสตร์ใด จะเป็นสัญญาณบ่งชี้จุดยืนระยะยาวต่อความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ
ทั้งนี้ นับจากดูแตร์เตขึ้นสู่อำนาจในปี 2016 ก็พยายามลดการพึ่งพิงอเมริกา ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้จีนสยายปีกอิทธิพลเข้ามา ปีเดียวกัน ดูแตร์เตโกรธสหรัฐฯเรื่องออกมาวิพากษ์วิจารณ์การปราบปรามยาเสพติดอย่างนองเลือดของเขา ถึงกับลั่นวาจา “bye-bye America”
ในปีถัดมา ดูแตร์เตได้ยกเลิกการซ้อมรบประจำปีกับสหรัฐฯในทะเลจีนใต้