กลุ่มสื่อจีนรายงาน (2 พ.ย.) สมาคมประชากรจีน (China Population Association) คาดว่า จำนวนทารกแรกเกิดในปี 2561 จะลดต่ำลง และจะลดต่ำต่อเนื่องไปอีกหลายปี
นายไจ เจิ้นอู่ ประธานสมาคมฯ ระบุว่า จำนวนการเกิดบนแผ่นดินจีนที่ลดลงมีสาเหตุมากจากจำนวนผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ลดน้อยลง โดยมีจำนวนลดลงทุกปีอย่างต่อเนื่องราว 5-6 ล้านคน ดังนั้น ต่อให้อัตราการเกิดจะยังคงเท่าเดิม แต่จำนวนทารกแรกเกิดก็จะลงลดต่อไป
การผ่อนปรนนโยบายลูกคนเดียวช่วยทำให้เพิ่มอัตราการเกิดในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี พ่อแม่จำนวนมากที่ต้องการมีลูกคนที่สอง ก็ได้ตั้งครรภ์ไปแล้วในช่วงต้นของการผ่อนปรนนโยบายดังกล่าวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และจะทยอยลดจำนวนลงตามลำดับ
คณะกรรมการสาธารณสุขและการวางแผนครอบครัวของจีนระบุว่า จีนพบทารกเกิดใหม่ราว 17.23 ล้านคนในปี 2560 ซึ่งราว 51 เปอร์เซ็นต์เป็นลูกคนที่สองของครอบครัว
อย่างไรก็ดี อัตราการเกิดใหม่โดยรวมกลับลดลงราว 630,00 คน เมื่อเทียบกับปี 2559 ขณะเดียวกันประชากรที่มีอายุเกินหกสิบปีก็ขยายตัวจาก 16.7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2559 ไปอยู่ที่ 17.3 เปอร์เซ็นต์ในปี 2560
คณะกรรมการสาธารณสุขและการวางแผนครอบครัวแห่งชาติ (National Health and Family Planning Commission) คาดว่า จำนวนผู้สูงอายุในจีนจะทะยานขึ้นแตะ 487 ล้านคนในปี 2593 หรือคิดเป็นร้อยละ 34.9 ของประชาการทั้งหมดของประเทศ
ในปัจจุบัน พ่อแม่ชาวจีนส่วนมากส่ายหน้ากับการมีลูกคนที่สอง ด้วยเหตุผลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ตามหัวเมืองซึ่งสำรวจพบยอดสูงกว่า 40,000-100,000 หยวน (ราว 2-5 แสนบาท) ต่อปี ไม่ว่าจะค่าเสื้อผ้า อาหาร การเรียนทั้งในและนอกเวลา บวกกับค่าบ้านที่อยู่อาศัยก็เพิ่มสูงขึ้นจนกลายเป็นอีกหนึ่งภาระหนักอึ้งบนบ่าทั้งสองข้าง