กลุ่มสื่อจีนรายงาน (2 พ.ย.) สถิติล่าสุดชี้จีนมีจำนวน “เด็กที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง” เหลือ 6.97 ล้านคนในเดือน ส.ค. ลดลงร้อยละ 22.7 เมื่อเทียบกับปี 2559
นางหนี ชุนซย่า รองหัวหน้าฝ่ายกิจการสังคมประจำกระทรวงมหาดไทยจีนระบุว่า การลดลงของเด็กที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลังเป็นผลจากความพยายามของรัฐบาลที่ผลักดันให้แรงงานเดินทางกลับไปทำงานที่บ้านเกิดของตนเอง นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนให้เด็กในชนบทมีโอกาสได้เข้าศึกษาในโรงเรียนในเมืองที่พ่อแม่ทำงานอยู่ด้วย
ร้อยละ 70 ของเด็กที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลังกระจายอยู่ใน 7 มณฑลใหญ่ได้แก่ ซื่อชวน (เสฉวน) อันฮุย หูหนัน เหอหนัน เจียงซี หูเป่ย กุ้ยโจว โดยมณฑลเสฉวนมีจำนวนเด็กที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลังมากที่สุดถึง 800,000 คน
เด็กที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลังร้อยละ 96 ใช้ชีวิตกับปู่ย่าตายาย ในขณะที่ส่วนที่เหลือได้รับการดูแลโดยญาติ ๆ โดยร้อยละ 55 ของเด็กเหล่านี้เป็นเด็กชาย
เมื่อปี 2560 รัฐบาลจีนประกาศแผนสร้างสวัสดิการสิ่งอำนวยประโยชน์อันจำเป็นให้กับเยาวชน รวมถึงลูกหลานครอบครัวแรงงานอพยพผู้ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ฝากอยู่ในภูมิลำเนาฯ โดยในแผนฯ ดังกล่าวยังระบุถึงการมีผู้ดูแลอนุบาล เด็กๆ ซึ่งถูกพ่อแม่แรงงานอพยพฝากไว้ ตลอดจนเข้าช่วยเหลือเด็กซึ่งมีปัญหาต่างๆ
คณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติ เผยว่า อีก 5 ปีข้างหน้า จะมีสิ่งอำนวยประโยชน์ในชีวิตอันจำเป็นสำหรับเด็กๆ ในพื้นที่ซึ่งมีประชากรมากกว่า 500,000 คน อันเป็นไปตามแผนพัฒนาสวัสดิการสังคม
“เด็กที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง” (left-behind children) เป็นปรากฏการณ์ที่ก่อให้เกิดปัญหาเรื้อรังมานานนับทศวรรษ เด็กเหล่านี้มักถูกเลี้ยงดูโดยคนรุ่นปู่ย่าตายาย หรือบางครั้งอาจถูกละทิ้งให้ใช้ชีวิตตามลำพังในชนบท ขณะพ่อแม่ไปทำงานต่างถิ่น ทำให้พวกเขาไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่ รวมถึงการศึกษาที่ดีเพียงพอ และมักเข้าไปพัวพันกับเหตุฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุ หรือการกระทำผิดกฎหมายอาญาอยู่บ่อยครั้ง ในปัจจุบันอาจมี “เด็กที่ถูกทอดทิ้งไว้ข้างหลัง” จำนวนมากกว่า 60 ล้านคนทั่วประเทศจีน