xs
xsm
sm
md
lg

เสือโคร่งมลายูเสี่ยงสูญพันธุ์ เหตุบริษัทมาเลเซียถางป่าทำสวนทุเรียนส่งออกจีน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เสือโคร่งมาลายูเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์ (critically endangered) (แฟ้มภาพเอเอฟพี)
กลุ่มสื่อต่างประเทศรายงาน (24 ต.ค.) พื้นที่ป่าในเขตเราบ์ รัฐปะหังของมาเลเซียกำลังถูกรุกรานอย่างหนัก เพื่อนำพื้นที่มาทำสวนทุเรียนส่งออกไปจีน ส่งผลกระทบต่อแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติของเสือโคร่งมลายู (Malayan tiger)

รายงานระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจีนและสิงคโปร์ที่เดินทางมากินทุเรียน ทำให้มีการแผ้วถางป่าเพื่อปลูกทุเรียนพันธุ์มูซังคิง (Musang King) ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งทุเรียน

นาง Siti Zuraidah Abidin จากองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลก หรือ ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ (WWF) ประจำมาเลเซียเปิดเผยว่า พื้นที่ฮูลู เซ็มปัน (Hulu Sempan) ขนาด 12,130,000 ตารางเมตร ซึ่งเดิมทีเป็นพื้นที่อาศัยตามธรรมชาติของเสือเนื่องจากใกล้กับเขตอนุรักษ์เสือกำลังจะกลายเป็นสวนทุเรียนแห่งใหม่ โดยบริษัท Perbadanan Setiausaha Kerajaan ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลมาเลเซีย

“การแผ้วถางป่าจะทำให้พื้นที่ป่าแตกกระจายและส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนย้ายของสัตว์ป่า” นาง Siti กล่าว

ทางด้านกรมการป่าไม้ประจำรัฐปะหังระบุว่า โครงการสวนทุเรียนในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอรับอนุญาตจากทางการ

ในช่วงที่ 10 ปีผ่านมา จีนมีมูลค่าการนำเข้าทุเรียนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 26 ต่อปี แตะ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2559 โดยประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกทุเรียนรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งออกทุเรียนปีละกว่า 402,661 ตัน คิดเป็นมูลค่า 495 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในจำนวนนั้น ได้ส่งออกไปยังจีนจำนวน 303,430 ตัน คิดเป็นมูลค่า 394 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ เสือโคร่งมาลายูเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงขั้นวิกฤติต่อการสูญพันธุ์ (critically endangered) ปัจจุบันมีเหลืออยู่น้อยกว่า 300 ตัวในโลก พบได้เฉพาะในคาบสมุทรมลายูและบริเวณตอนใต้ของไทย




กำลังโหลดความคิดเห็น