กลุ่มสื่อจีนรายงาน (19 ต.ค.) ท่าอากาศยานนานาชาติหงเฉียว ในนครเซี่ยงไฮ้ เริ่มใช้ระบบเทคโนโลยีการตรวจจับและรู้จำใบหน้า (Facial Recognition) ในการเช็คอินเที่ยวบินและสัมภาระ
รายงานระบุว่า ระบบดังกล่าวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจรักษาความปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่ทั้งบริเวณจุดเช็คอินและการตรวจสอบผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาในการผ่านจุดตรวจสอบของผู้โดยสารอีกด้วย
นายจาง เจิง ผู้จัดการทั่วไปของสายการบินสปริงแอร์ไลน์ (Spring Airlines) กล่าวว่า ในปัจจุบัน มีเพียงชาวจีนที่มีบัตรประจำตัวประชาชนเท่านั้นที่สามารถใช้งานระบบดังกล่าวได้ โดยร้อยละ 87 ของผู้โดยสาร 5,017 คนที่เดินทางกับสายการบินฯ สามารถลดเวลาในการเช็คอินเหลือเพียงไม่ถึง 1 นาทีเท่านั้น
จากข้อมูลที่รายงานโดยสำนักข่าวบีบีซีนิวส์เมื่อปลายปี 2560 ระบุว่า รัฐบาลจีนกำลังสร้างเครือข่ายกล้องวงจรปิดอัจฉริยะที่มีความซับซ้อน ทั้งยังผสมผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้าไปทำให้สามารถตรวจจับและแยกแยะบุคคลได้จากใบหน้า โดยผู้สื่อข่าวบีบีซีที่ทดลองระบบดังกล่าวถูกควบคุมตัวได้ภายในเวลาเพียง 7 นาทีหลังจากออกเดินไปในที่สาธารณะ โดยปัจจุบันจีนติดตั้งกล้องอัจฉริยะดังกล่าวไปแล้วกว่า 170 ล้านตัว และในอีก 3 ปีข้างหน้าจะติดตั้งกล้องเพิ่มเติมอีก 400 ล้านตัว
สำหรับระบบกล้องวงจรปิดอัฉจริยะดังกล่าว สามารถตรวจจับใบหน้าคน แยกแยะเพศ ชาติพันธุ์ ทำนายอายุ ส่วนสูง เชื่อมโยงใบหน้าคนเข้ากับการเป็นเจ้าของยานพาหนะ และยังอาจระบุความถี่ในการปฏิสัมพันธ์ของเขากับผู้อื่นได้อีกด้วย ฯลฯ