xs
xsm
sm
md
lg

พ่อขับรถหรูเฟอรารี่ ส่งลูกไปโรงเรียน ถูกขับออกจากกลุ่มสนทนาผู้ปกครองบนโชเซียลมีเดียจีน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

แฟ้มภาพ รถสปอร์ต Ferrari 488
เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์--คุณพ่อชาวหังโจว ขับรถสปอร์ตหรูเฟอรารี่ ส่งลูกไปโรงเรียน แต่โดนครูและผู้ปกครองกลุ่มหนึ่งบอยคอต ขับออกจากกลุ่มสนทนาในโซเชียลมีเดีย วีแชท เหตุเพราะไม่ยอมเลิกใช้รถหรูส่งลูกไปโรงเรียน

ชายผู้โดนบอยคอตฯนี้ แซ่ หลี่ ได้ใช้รถสปอร์ต Ferrari 488 ไปส่งลูกชายที่โรงเรียนประถมศึกษาประจำเมือง

สื่อท้องถิ่นของเมืองหังโจว City Express เปิดเผย นาย หลี่ เป็นผู้บริหารบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายหนึ่ง มีรายได้มากกว่า 4 ล้านหยวน หรือราว 20 ล้านบาทต่อปี

ข้อความชิ้นหนึ่งในกลุ่มสนทนาวีแชทของผู้ปกครองเด็กนักเรียน ระบุว่าครูได้คุยกับนายหลี่ เรื่องพ่อแม่กลุ่มหนึ่งวิจารณ์เรื่องขับรถหรูมาส่งลูกที่โรงเรียน โดยครูคนดังกล่าวบอกว่ามันทำให้เกิดการเปรียบเทียบในชั้นเรียน และจะสร้างปัญหาความสัมพันธ์ในกลุ่มนักเรียน

พ่อแม่หลายคนสนับสนุนความคิดของครู และแนะให้นายหลี่เปลี่ยนรถที่ใช้ส่งลูกชายมาโรงเรียน

“การขับรถหรูมาส่งลูกเช่นนี้ไม่เหมาะสม คุณไม่ควรอวดมั่งอวดมี ไม่ว่าจะรวยแค่ไหน” ผู้ปกครองเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ว่า

“คุณควรเปลี่ยนไปใช้รถธรรมดาอื่นๆ” ผู้ปกครองคนหนึ่ง กล่าว

แต่นายหลี่ไม่ยอมรับเสียงวิจารณ์และคำแนะนำ ตอบว่าเงินของเขาได้มาจากการทำงานหนัก และต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูก

“หากการขับรถสปอร์ตไปส่งลูกผมที่โรงเรียน ทำให้ลูกๆของพวกคุณรู้สึกแย่แล้วละก็ พวกเขาก็อ่อนไหวมากเกินไป และทำไมผมจะต้องซื้อรถคันใหม่ เพียงเพื่อสนองความต้องการของพวกคุณ”

แต่ต่อมา นายหลี่ก็พบว่าเขาโดนขับออกจากกลุ่มสนทนาวีแชท โดยข้อความสุดท้ายของเขาคือ “เกิดอะไรขึ้น?”

กรณีนี้ยังได้ก่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดียจีน “เวยปั๋ว” เกี่ยวกับการฟอกเงิน โดยมีข้อความแสดงความคิดเห็นเกือบ 30,000 ชิ้น

แต่บางกลุ่มก็ไม่เห็นด้วยกับครูที่ลบชื่อนายหลี่ออกจากกลุ่มสนทนาผู้ปกครองเพราะความคิดเห็นที่แตกต่าง บางกลุ่มบอกว่าครูและผู้ปกครองควรใช้กรณีนี้เป็นโอกาสสอนเด็กๆให้เรียนรู้เกี่ยวกับคุณค่า

“ครูและผู้ปกครองบางกลุ่มล้มเหลวที่จะสอนเด็กๆเกี่ยวกับคุณค่าที่แท้จริงในชีวิตและเงิน พวกเขาสามารถที่จะกำจัดสิ่งฟุ่มเฟือยให้หมดไปจากโลกได้หรือ?” ผู้แสดงความเห็นรายหนึ่งกล่าว

“ช่องว่างรายได้นั้นเป็นเรื่องจริง แต่เป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะสอนเด็กๆให้เผชิญหน้ากับมัน มากกว่าที่จะมานั่งวิพากษ์วิจารณ์คนขับรถหรูอวดความมั่งคั่งเช่นนี้”

ทั้งนี้จีนเผชิญปัญหาช่องว่างรายได้ใน 40 ปีที่ผ่านมา ดัชนีจีนี ที่วัดความไม่เสมอภาคทางรายได้ (Gini coefficient) สูงขึ้นในจีน อยู่ที่ 0.465 ในปีที่แล้ว สหประชาชาติระบุว่าดัชนีจีนีที่สูงกว่า 0.4 เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความไม่เสมอด้านรายได้ที่น่าวิตก สำหรับตัวเลขนี้ในสหรัฐฯ อยู่ที่ 0.479

ช่องว่างรายได้สุทธิระหว่างเขตเมืองและเขตชนบทในจีน สูงขึ้นกว่า 10 เท่า จาก 210 หยวน ในปี 1978 มาอยู่ที่ 22,964 หยวนเมื่อปีที่แล้ว

ความมั่งคั่งระหว่างมณฑลปรากฏอย่างชัดเจน รายได้สุทธิโดยเฉลี่ยของกลุ่มมณฑล/เมืองอย่างปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ร่วม 60,000 หยวนในปีที่แล้ว ขณะที่รายได้สุทธิของประชาชนในกลุ่มมณฑลอย่าง กันซู และกุ้ยโจว อยู่ที่ราว 16,000 หยวน จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งรัฐ


กำลังโหลดความคิดเห็น