ไชน่าเดลี (8 ต.ค.) - จินตนาการนิยายวิทยาศาสตร์ใกล้จะกลายเป็นจริง ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ผลิต Ehang ได้เปิดตัววิดีโอการทดสอบบินของโดรน บรรทุกผู้โดยสารคนแรกของโลก Ehang 184 โดยเครื่องบินโดรนสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้หนึ่งคน น้ำหนักไม่เกิน 100 กิโลกรัม และเดินทางด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
Ehang ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กว่างโจว มณฑลกวางตุ้งในภาคใต้ของจีน กล่าวถึง Ehang 184 ว่าเป็น "โดรนผู้โดยสารลำแรกนี้ ใช้ไฟฟ้าทั้งลำ" หรือจะเรียกอีกนัยหนึ่งก็คือรถที่บินได้นั่นเอง
สองปีครึ่งที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ Ehang แทบไม่มีใครรู้จักในวงการเทคโนโลยี บริษัทไปออกงาน Consumer Electronics Show ในลาสเวกัส อย่างเงียบๆ ในเดือนมกราคมปีพ.ศ. 2560 โดยการเสนอพาหนะโดยสารขนาดเล็ก Quadcopter (คอร์ดคอบเตอร์) หรือ เฮลิคอปเตอร์ที่มีใบพัด 4 ใบนั่นเอง
แอนดรูว์เจ. ฮอว์กินส์ คอลัมนิสต์ The Verge สื่อด้านเทคโนโลยีในสหรัฐอเมริกากล่าวว่า "พวกเราหลายคนในงานเทคโนโลยีวันนั้น ออกจะขำในเวลานั้น แบบสงสัยว่าจะเป็นไปได้หรือ"
ตอนนี้ ไม่มีใครหัวเราะอีกแล้ว คอร์ดคอบเตอร์ รถหรือแท็กซี่บิน หรืออะไรก็ตามที่ยังไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี แต่นี่คือสิ่งที่จะเป็นจริง และ "เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องอำแล้ว"
Ehang ไม่ใช่บริษัทเพียงแห่งเดียวของจีน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการวิจัยและพัฒนารถยนต์ที่บินได้
ปลายปีที่แล้วเจ้อเจียง Geely Holding Group ซึ่งเป็นเจ้าของ Volvo และ Lotus ได้ซื้อกิจการ Terrafugia บริษัทในเมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้ในการบินในปีหน้า
บลูมเบิร์กรายงานว่า "เป็นการลงทุนที่โดดเด่นที่สุดของจีน ในอุตสาหกรรมที่ดึงดูดเงินทุนของผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มีอนาคตที่สุดในโลก นับว่าเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีที่จะก่อร่างสร้างเมืองในศตวรรษที่ 21"
อย่างไรก็ตาม จีนไม่ได้เป็นชาติเดียวในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ หลายสิบบริษัททั่วโลกก็กำลังใช้จ่ายเงินหลายพันล้านเพื่อการวิจัยเพื่อให้ได้รถบินที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์
บางส่วนของคู่แข่งชั้นนำ ได้แก่ แอร์บัสและเดมเลอร์ในยุโรป, โบอิ้ง เบลเฮลิคอปเตอร์ อูเบอร์และกูเกิลในสหรัฐอเมริกา ยังมีแอสตันมาร์ตินในอังกฤษ
ฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน บริษัทให้คำปรึกษาทางธุรกิจชี้ว่า ปัญหาการจราจรแออัดในเมืองใหญ่ ๆ และศูนย์กลางเมืองขนาดใหญ่ควบคู่ไปกับการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดความต้องการใช้รูปแบบการขนส่งในเมืองที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า การลงทุนในเทคโนโลยีการบินอัตโนมัติกำลังพัฒนาไปไกลถึงขั้นที่เชื่อมั่นว่า ด้วยการพัฒนาครั้งล่าสุด Ehang 184 ผู้โดยสารทุกคนทำเพียงแค่ปีนเข้าไปในห้องโดยสารขนาดเล็ก ยึดเข็มขัดเข้ากับที่นั่งด้วยตนเองก็พอ นอกจากนั้น ระบบการบินอัตโนมัติจะทำส่วนที่เหลือไปจนถึงที่หมายปลายทาง
นายหู หัวจื่อ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ehang กล่าวในแถลงการณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า "ไม่มียานบินแบบใดที่สามารถบรรลุเป้าหมายของการบินอัตโนมัติได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นการขับเครื่องบินจึงดูเป็นทักษะที่ห่างไกลจากคนทั่วไป แต่การทดสอบเที่ยวบินขับเคลื่อนอัตโนมัติของเรา ประสบความสำเร็จอย่างดี และหมายความว่าต่อไปนี้คนทั่วไปจะคุ้นเคยใกล้ชิดกับการใช้งานพาหนะนี้"
บริษัท กล่าวว่าโดรนโดยสาร Ehang 184 ได้ผ่านการทดสอบมากกว่า 1,000 ครั้งและออกแบบมาเพื่อทนต่อพายุที่มีความเร็วลมได้ถึง 50 กม. / ชม. โดยราคาจำหน่ายคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 200,000 เหรียญถึง 300,000 เหรียญ
ปีที่ผ่านมา รัฐบาลนครดูไบ ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ประกาศแผนการที่จะร่วมมือกับ Ehang เพื่อพัฒนารถบินด้วยตัวเองเพื่อขนส่งคนทั่วเมือง
เดอริก เสวียง ผู้ร่วมก่อตั้ง Ehang กล่าวว่า "โดรนเป็นทางออกให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการจราจรบนพื้นดินได้ และที่สำคัญเราสามารถใช้ในงานช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือส่งผู้ป่วยไปที่โรงพยาบาลได้ ยังมีการใช้งานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งซึ่งไม่ต้องพึ่งรถยนต์ หรือเรือ"
นักวิเคราะห์เชื่อว่า รถยนต์และแท็กซี่อากาศ ซึ่งบินไปและกลับจากสนามบิน หรือระหว่างเมืองจะเป็นเรื่องธรรมดาภายในสองทศวรรษถัดไป