เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวย้ำอีกครา “การสยายปีกอำนาจพรรคคอมมิวนิสต์จีนเหนือกองทัพ จะยืนนานและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น”
สถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน (ซีซีทีวี) ได้รายงานการประชุมระหว่างสี จิ้นผิง และกลุ่มผู้นำทหารระดับสูงสุดแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) เมื่อวานนี้(19 ส.ค.) โดยสีได้ปราศรัยกับเหล่าผู้นำทหาร ซึ่งมีสาระสำคัญ คือเน้นความจงรักภักดีของกองทัพต่อพรรคคอมมิวนิสต์ และการขยายการนำของพรรคฯจะช่วยให้กองทัพบรรลุภารกิจแห่งยุคใหม่
สำหรับผู้เข้าร่วมการประชุมจากฝ่ายกองทัพได้แก่ คณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง ผู้นำพรรคฯประจำเขตภาค หน่วยงานและสถาบันต่างๆของกองทัพ
เฉิน เต้าอิน ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐศาสตร์ชาวจีน กล่าวว่า ประธานาธิบดี สี ซึ่งควบตำแหน่งคณะกรรมาธิการทหารกลางด้วยนั้น ได้เน้นถึงอำนาจทางการเมืองของตน
“การควบคุมกองทัพและการโฆษณาชวนเชื่อ เป็นฐานสร้างอำนาจพรรคฯ และการประชุมฯก็ได้ส่งสารว่าสีมีอำนาจควบคุมที่แข็งแกร่งเหนือกองทัพ”
ทั้งนี้ การกล่าวย้ำอำนาจเหนือกองทัพของสีครั้งนี้นับเป็นกล่าวบนเวทีสาธารณะครั้งแรกหลังจากที่หายหน้าไปประชุมร่วมกับเหล่าผู้นำระดับวงในสุดของคณะกรรมมาธิการประจำกรมการเมืองหรือโปลิตบูโรแห่งพรรคฯที่รีสอร์ทริมทะเลทางเหนือเป่ยไต้เหอเป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์
การประชุมประจำปีที่เป่ยไต้เหอนี้เป็นการปลีกตัวจากกิจการทั้งปวงของกลุ่มผู้นำที่ทรงอิทธิพลที่สุดของจีน และมาประชุมอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อตกลงฉันทามติในประเด็นสำคัญๆของประเทศ ถือเป็นกิจกรรมการเมืองที่สำคัญที่สุดนัดหนึ่งของจีน
ทั้งนี้ การประชุมที่เป่ยไต้เหอเป็นการประชุมลับสุดยอด ไม่มีการประกาศใดสู่สาธารณะ สัญญาณที่บ่งบอกว่ามีการประชุมฯนี้คือ การหายตัวไปจากสายตาสาธารณะของคณะกรรมาธิการประจำโปลิตบูโร 7 คน ซึ่งเป็นหน่วยอำนาจทรงอิทธิพลสูงสุดของจีน
กลับมาที่รายงานข่าวของสื่อจีน....สีกล่าวอีกว่าปฏิบัติการต่อต้านคอรัปชั่นในกองทัพยังดำเนินต่อไป และกองทัพต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคฯอย่างพรักพร้อม อีกทั้งปรับตัวเคลื่อนไหวการปรับโครงสร้างกองทัพอย่างรวดเร็ว
“เราต้องยืนหยัดไม่หยุดหย่อนในการบรรลุภารกิจใหญ่เพื่อแก้ไขปัญหาและความขัดแย้งต่างๆ อีกทั้งช่วยกันอุดรูโหว่ในการนำของพรรคฯ เราอาจต้องทำแม้กระทั่งการเขม็งเกรียวอำนาจควบคุมของพรรคฯ...ในด้านการทหาร”
สื่อทางการจีนไม่ได้ระบุเจาะจงเกี่ยวกับ”รูโหว่” แต่เมื่อไม่กี่เดือนมานี้มีการประท้วงของกลุ่มนายทหารผ่านศึกในเมืองต่างๆ บางกลุ่มถึงกับก่อความรุนแรง เพื่อเรียกร้องการยกระดับสิทธิประโยชน์สวัสดิการ
กองทัพมังกร มีกำลังพลใหญ่สุดในโลก โดยกลุ่มทหารผ่านศึก 57 ล้านคน ได้ต่อสู้เรียกร้องสวัสดิการที่ดีขึ้นเป็นเวลาหลายปี และหลังการประท้วงใหญ่เมื่อปีที่แล้ว สีได้ออกมาสัญญาแก้ไขปัญหา จนกระทั่งในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกได้เปิดธุรกิจในกรุงปักกิ่ง
สีได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการประจำโปลิตบูโรในวันพฤหัสฯ(16 ส.ค.) แต่ไม่มีรายงานข่าวหรือภาพใดๆเกี่ยวกับการประชุมฯ
ในสัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานเผยว่าการประชุมได้มุ่งเน้นประเด็นกรณีอื้อฉาววัคซีนไม่ได้มาตรฐานของบริษัทฉังชุน ฉังเซิง ไปโอ-เทคโนโลยี (Changchun Changsheng Bio-technology) ซึ่งเป็นวิกฤตสุขภาพสาธารณะครั้งเลวร้ายที่สุดแห่งปีของจีน ต่อมาก็มีแถลงการณ์ปลดระนาวบรรดาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกรณีอื้อฉาวนี้ โดยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส 7 คน และเจ้าหน้าที่ระดับรองๆลงไป รวมทั้งสิ้นกว่า 40 คน
ระหว่างการครองอำนาจสมัยแรกของสี จิ้นผิง ได้ดำเนินการปราบปรามคอรัปชั่นอย่างสะท้านแผ่นดินใหญ่ มีการปลดผู้นำทหารระดับอาวุธกลุ่มหนึ่ง โดยมีบิ๊กอย่างอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง สีว์ ไฉโฮ่ว และ กัว ปัวสยง
ระหว่างการไปเก็บตัวประชุมลับสุดยอดของผู้นำจีนนี้ บนเวทีโซเชียล มีเดียจีน ปรากฏบทความของอาจารย์ภาควิชากฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยชิงหวา สีว์ จางรุ่น ซึ่งเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์คณะบริหารปกครองประเทศภายใต้การนำของสี จิ้นผิง นอกจากนี้ ยังมีบทความจากอาจารย์มหาวิทยาลัยชิงหวาอีกท่าน คือ หู อันกัง ชี้ถึงการเรืองอำนาจของจีน ที่ได้แซงหน้าสหรัฐอเมริกาแล้ว กลายเป็นผู้นำโลกในแง่อิทธิพลทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี