รอยเตอร์ส - สื่อต่างประเทศเผย “สตาร์บัคส์” (Starbucks) จับมือ “อาลีบาบา” (Alibaba) ตั้งทัพบริการส่งกาแฟบนแดนมังกร หวังกระตุ้นยอดขายที่ซบเซาลงให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง
อ้างอิงรายงานของวอลล์ สตรีท เจอร์นัล เมื่อวันจันทร์ (30 ก.ค.) ระบุว่าสตาร์บัคส์และอาลีบาบาเตรียมทำงานร่วมกันด้านการบริการจัดส่งกาแฟ ซึ่งสอดคล้องกับคำพูดเป็นนัยของโฮวาร์ด ชูลทส์ อดีตประธานบริหารสตาร์บัคส์ ที่เปรยเมื่อต้นเดือนนี้ว่าสตาร์บัคส์อาจจะร่วมงานกับแจ็ก หม่า มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งอาลีบาบาในไม่ช้า
รายงานข่าวกล่าวว่าการประกาศข้อตกลงอย่างเป็นทางการน่าจะมีขึ้นภายในสัปดาห์นี้ ด้านสตาร์บัคส์ยังปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว โดยยอดขายของสตาร์บัคส์ตกลง 2 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสสอง (เม.ย.-มิ.ย.) ของปีนี้ เมื่อเทียบกับการเติบโต 7 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
สตาร์บัคส์ชี้สาเหตุการชะลอตัวของยอดขายมาจากการปราบปรามผู้ให้บริการจัดส่งสินค้าที่ถือเป็นบุคคลที่สามและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงภาวะ “แย่งยอดขายกันเอง” ของร้านสตาร์บัคส์ ซึ่งขยับขยายจำนวนสาขาอย่างรวดเร็วกว่า 3,400 แห่งแล้วในจีน
นอกจากนั้นสตาร์บัคส์ยังเผชิญแรงกดดันจากการแข่งขันกับสตาร์ทอัพเจ้าถิ่นที่กำลังเติบโตไม่หยุดอย่าง “ลักกิ้น คอฟฟี” (Luckin Coffee) ซึ่งได้เปิดร้านสาขามากกว่า 660 แห่งใน 13 เมืองใหญ่ของจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่เริ่มกิจการอย่างเป็นทางการในเดือนม.ค. ที่ผ่านมา
ยักษ์ใหญ่วงการกาแฟสัญชาติอเมริกันออกมายอมรับเมื่อไม่นานนี้ว่าผลการดำเนินงานในจีน “ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น” แต่ก็กำลังเร่งวางแผนงานบริการจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มในรูปแบบใหม่ โดยจะเริ่มที่กรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
วอลล์ สตรีท เจอร์นัล แสดงความหวังทิ้งท้ายไว้ว่าการร่วมเป็นหุ้นส่วนทางการค้ากับ “เอ้อเลอเมอ” (Ele.me) บริษัทจัดส่งอาหารและเครื่องดื่มในเครืออาลีบาบา จะเป็นตัวช่วยส่งเสริมการเติบโตในตลาดจีนของสตาร์บัคส์ ซึ่งมุ่งเป้าขยายร้านสาขาในจีนเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในปี 2565