ซินหวา--กระทรวงพาณิชย์จีน แถลงเมื่อวานนี้(19 ก.ค.) จีนเตรียมยื่นฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ (WTO) เพิ่มเติม ต่อกรณีแผนการตั้งภาษีการค้ากับสินค้าจีน มูลค่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ชี้ การฟ้องร้องฯนี้ เป็น “ความจำเป็นเพื่อปกป้องหลักการพื้นฐานของดับเบิลยูทีโอ”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้จีนได้ยื่นฟ้องร้องไปยังดับเบิลยูทีโอ หลังจากที่สหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน มูลค่า 34,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
โฆษกของกระทรวงพาณิชย์จีน นาย เกา เฟิง กล่าวว่าการเคลื่อนไหวตั้งกำแพงภาษีการค้าของสหรัฐฯนี้ ถือเป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานดับเบิลยูทีโอว่าด้วยเกี่ยวกับการปฏิบัติการต่อชาติที่ได้รับความอนุเคราะห์ยิ่งทางการค้าและกฎกติกาเกี่ยวกับภาษีการค้า
“ไม่ว่าเราต้องการระบบการค้าพหุภาคีหรือไม่ มันก็เป็นเรื่องของหลักการ เรายังเชื่ออย่างเหนียวแน่นว่าคู่ค้าโลก จะต้องร่วมมือกันพัฒนา และรักษากฎระเบียบด้านการค้า ทั้งระบบการค้าพหุภาคี โดยขณะนี้สมาชิกบางรายกำลังทำลายระบบเหล่านี้” โฆษก เกา กล่าว พร้อมปฏิเสธเรื่องที่เจ้าหน้าที่บางคนของสหรัฐฯชี้ว่าจีนเป็นฝ่ายที่ทำให้การเจรจาระหว่างสองฝ่ายล้มเหลว
“สหรัฐฯเป็นฝ่ายที่ซัดไม้แข็งภาษีการค้า ทำตัวเป็นอันธพาลบนเวทีการค้าโลก และยังป่าวร้องว่าตนบริสุทธิ์ โยนความผิดให้แก่ผู้อื่น” โฆษพาณิชย์จีนแถลง
ฝ่ายจีนพยายามแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจที่สุด เพื่อสร้างความร่วมมือที่สมประโยชน์ร่วมกัน ในการปรึกษาหารือ 4 รอบ กับฝ่ายสหรัฐฯมาตั้งแต่เดือนก.พ. และเป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่วอชิงตันได้ปัดทิ้งฉันทามติที่ได้ตกลงกันแล้วถึงสองครั้ง ในเดือนพ.ค. และเดือนมิ.ย.
“สหรัฐฯเป็นผู้เปิดศึกการค้าในวันที่ 6 ก.ค. และโหมกระพือมันอีกในวันที่ 11 ก.ค. วอชิงตันเป็นฝ่ายผิดสัญญา และเคลื่อนไหวแบบเอาแน่เอานอนไม่ได้ ซึ่งถือเป็นการปิดประตูการเจรจาใดๆ”