ไชน่าเดลี่ (16 ก.ค.) ทางการจีนเผย วันนี้ว่าการเติบโตของจีดีพี หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ในจีน ช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 6.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
สำนักงานสถิติระบุว่า การเติบโตของจีดีพีในไตรมาสที่สองอยู่ที่ 6.7% เทียบกับ 6.8% ในไตรมาสแรก โดยยอดค้าปลีกในช่วงครึ่งแรกของปี เพิ่มขึ้น 9.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ลดลง 0.4% จากไตรมาสแรก
ผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัว เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ลดลง 0.1% จากไตรมาสแรก
การเติบโตของสินทรัพย์ถาวรอยู่ที่ 6% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ลดลง 1.5% จากไตรมาสแรก
นายเหมา เสิ่นหยง โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวว่าตัวเลขนี้ แสดงให้เห็นว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศยังคงมีเสถียรภาพ
ก่อนหน้านี้ สำนักงานสถิติฯ เผยถึงปัจจัยที่ทำให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ว่าโครงสร้างอุตสาหกรรมจีนกำลังยกระดับขึ้น โดยผลผลิตในภาคไฮเทค ภาคอุปกรณ์เครื่องมือ ขยายตัวต่อเนื่อง ด้านการค้าต่างประเทศปรับตัวเข้าสู่สมดุลมากขึ้นนับจากต้นปีนี้ มีอัตราเติบโตการนำเข้าแซงหน้าการส่งออก ยอดเกินดุลการค้าหดแคบลง
ในการเติบโตของไตรมาสแรกนั้น ภาคการบริโภค ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ถึง 77 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าปัจจัยด้านการลงทุนและการส่งออก และ ปัจจัยที่โดดเด่นในเศรษฐกิจจีนคือ การขยายตัวของภาคบริการ และการบริโภค รวมถึงการใช้จ่ายในช่วงเทศกาล และการท่องเที่ยวในประเทศ