สำนักข่าวซินหวรายงานสหรัฐฯและจีนประกาศแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันวานนี้(19 พ.ค.) หลังประชุมปรึกษาหารือเศรษฐกิจการค้า ลั่นสัญญา “ไม่ทำสงครามการค้าต่อกัน”
แถลงการณ์ร่วมระบุว่า คณะผู้แทนฝ่ายสหรัฐฯและจีน ได้ร่วมประชุมปรึกษาหารือประเด็นเศรษฐกิจและการค้าระหว่างวันพฤหัสฯและวันศุกร์ (17-18 พ.ค.) ที่กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ตามคำสั่งมอบหมายของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งจีน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ
ในการประชุมฯทั้งสองฝ่ายได้ตกลงจะดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อลดการขาดดุลการค้าสหรัฐฯจากการนำเข้าสินค้าจากจีน
ฝ่ายจีนจะเพิ่มการสั่งซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯอย่างสำคัญ เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคของประชาชนจีน และเร่งยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจจีนที่มีคุณภาพสูง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐฯ แถลงการณ์ระบุ
ทั้งสองชาติได้ตกลงขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรและพลังงานของสหรัฐฯ โดยฝ่ายสหรัฐฯจะส่งคณะผู้แทนไปจีนเพื่อปรึกษาประเด็นนี้อีก
นอกจากนี้สองฝ่ายได้พูดคุยเกี่ยวกับการขยายการค้าด้านสินค้าบริโภคและบริการ และได้บรรลุฉันทามติเรื่องการสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยเพื่อขยายการค้าในภาคดังกล่าว
แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า สองฝ่ายจะให้ความสำคัญแก่การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และตกลงส่งเสริมความร่วมมือในการด้านนี้ โดยฝ่ายจีนจะผลักดันการทบทวนกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกฎหมายสิทธิบัตร
ทั้งสองฝ่ายยังได้ตกลงส่งเสริมการลงทุนสองทาง และสัญญากันว่าจะสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพื่อการแข่งขันที่เป็นธรรมเสมอภาค
คณะผู้แทนฝ่ายจีนนำโดยทูตพิเศษของประธานาธิบดี สี คือ รองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอ ส่วนคณะผู้แทนสหรัฐฯ ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการคลัง สตีเวน มนูชิน, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวิลเบอร์ รอสส์, และผู้แทนการค้า โรเบิร์ต ไลท์ธิเซอร์
รองนายกฯหลิว ยังบอกกับสื่อระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า การปรึกษาหารือฯนี้ ประสบความสำเร็จอย่างงาม โดยสองฝ่ายได้ตกลงไม่ทำสงครามการค้าต่อกัน และยุติการตั้งกำแพงภาษีกาค้ากัน
ทั้งนี้รองนายกฯหลิว ได้เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตันในบ่ายวันอังคาร(15 พ.ค.) เพื่อประชุมปรึกษาหารือประเด็นเศรษฐกิจและการค้า ตามคำเชิญของรัฐบาลสหรัฐฯ