ซินหัว - โครงการหนึ่งแถบ หนึ่งทาง (Belt and Road Initiative - BRI) เริ่มสัมฤทธิ์ผล พบจีนนำเข้าสินค้าจากนานาประเทศในโครงการฯ เพิ่มขึ้นเร็วกว่าส่งออกเป็นครั้งแรกในปีที่ผ่านมา
อ้างอิงรายงานซึ่งรวบรวมและเผยแพร่โดยศูนย์ข้อมูลแห่งรัฐ (State Information Center) เมื่อไม่นานนี้ ระบุว่ามูลค่าการนำเข้าจากกลุ่มประเทศบีอาร์ไออยู่ที่ 666,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2560 เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี และคิดเป็น 39 เปอร์เซ็นต์ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดของจีน
ส่วนมูลค่าการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศบีอาร์ไออยู่ที่ 774,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีเดียวกัน เพิ่มขึ้น 8.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี ส่งผลให้อัตราเติบโตของการนำเข้าแซงหน้าการส่งออกเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่โครงการบีอาร์ไอปรากฏขึ้นมาเมื่อห้าปีก่อน
ด้านภาพรวมการค้าของจีนกับกลุ่มประเทศบีอาร์ไอแตะหลัก 1.44 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 13.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบปีต่อปี และมีอัตราเติบโตเร็วกว่า 5.9 เปอร์เซ็นต์ หากเปรียบเทียบกับอัตราเติบโตของการค้าทั้งหมดของจีน
รายงานเสริมว่าการค้าของจีนกับประเทศในเอเชียกลางมีอัตราเติบโตเร็วที่สุด รองลงมาคือยุโรปตะวันออก ส่วนประเทศอย่างเกาหลีใต้ เวียดนาม มาเลเซีย อินเดีย และรัสเซีย จัดอยู่ในกลุ่มหุ้นส่วนการค้า 10 อันดับแรกของจีน คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ของการค้าของจีนกับกลุ่มประเทศบีอาร์ไอ
จีนนั้นส่งออกสินค้าจำพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องจักรกลแก่กลุ่มประเทศบีอาร์ไอ และนำเข้าสินค้าจำพวกเดียวกัน รวมถึงเชื้อเพลิงฟอสซิลจากกลุ่มประเทศบีอาร์ไอ โดยกลุ่มบริษัทเอกชนเป็นนักค้าขายรายใหญ่ที่สุด ตามด้วยกลุ่มบริษัทที่ต่างชาติเข้ามาลงทุน และรัฐวิสาหกิจจีน
นายอี้ว์ สือหยัง ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) ของศูนย์ข้อมูลแห่งรัฐ กล่าวว่าแม้กระแสลัทธิปกป้องการค้าสูงขึ้นในบางประเทศ แต่การค้าของจีนกับกลุ่มประเทศบีอาร์ไอได้เดินหน้าอย่างกระฉับกระเฉง สะท้อนผลสำเร็จของโครงการบีอาร์ไอและการค้าเสรี
ทั้งนี้ จีนนำเสนอโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งทาง ในปี 2556 เพื่อกระตุ้นการค้าและการลงทุนในกลุ่มประเทศที่ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมโบราณ ซึ่งลากยาวจากเอเชียไปยังยุโรปและแอฟริกา