ประชุมสองสภา : จีนผ่านมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ รับรองอำนาจหน่วยปราบโกงเป็นหน่วยงานหลักฯ

ไชน่าเดลี (12 มี.ค.) - สมัชชาผู้แทนประชาชนจีน ฝ่ายนิติบัญญัติของจีน ได้ให้สัตยาบันรัฐธรรมนูญของประเทศ โดยการลงคะแนนลับในวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม ซึ่งบัญญัติความคิดประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เกี่ยวกับลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีนสำหรับยุคใหม่ ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี ในกฎหมายพื้นฐานของประเทศด้วย

การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรกในรอบ 14 ปี ได้รับการสนับสนุนเกือบเป็นเอกฉันท์จากฝ่ายนิติบัญญัติ โดยมีผู้ที่ได้ให้ความเห็นชอบ 2,958 คน มี 2 เสียง ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง 3 คน

การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ได้ระบุให้รับรองอำนาจตามรัฐธรรมนูญฯ ของคณะกรรมการกำกับดูแลฯ อันเป็นหน่วยงานใหม่ของรัฐ และยังระบุความมุ่งมั่นของจีนในการสร้างสันติภาพและการพัฒนาผลประโยชน์ร่วมกัน ความร่วมมือด้านผลประโยชน์ร่วมกัน การเปิดและการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ ลงในรัฐธรรมนูญฯ

สภานิติบัญญัติแห่งชาติ บัญญัติในรัฐธรรมนูญว่า "ความเป็นผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นลักษณะเฉพาะของลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีน"

เซิน ชุนเหยา ประธานคณะกรรมาธิการกิจการนิติบัญญัติของคณะกรรมาธิการ สมัชชาผู้แทนประชาชนจีน กล่าวว่า "ประโยคใหม่ในรัฐธรรมนูญนี้ สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะพื้นฐานที่ครบถ้วนและทันสมัยของการเป็นผู้นำของพรรค"

ในส่วนบทบัญญัติเกี่ยวกับการเป็นผู้นำของพรรคได้รวมอยู่ในหมวดแรกของรัฐธรรมนูญ

"ความคิดเกี่ยวกับลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีนสำหรับยุคใหม่ของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง คือความสำเร็จล่าสุดในการปรับใช้ลัทธิมาร์กซิสม์กับบริบทของจีน เข้ากับประสบการณ์ทางปฏิบัติและประสานภูมิปัญญาร่วมของพรรคและประชาชน" เซิน กล่าว และว่า

"การรวมแนวคิดของ สี จิ้นผิง และแนวความคิดทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการพัฒนา ช่วยให้มั่นใจได้ว่าทฤษฎีที่นำทางของประเทศจะก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ"

เจิ้ง ซู่หนา รองประธานของคณะกรรมาธิการ สมัชชาผู้แทนประชาชนจีน กล่าวว่าการแก้ไขครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ระบุให้ คณะกรรมาธิการกำกับดูแลเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินนโยบายระดับบนสุด เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนาระบบการกำกับดูแลของตนให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

"เป้าหมายของการปฏิรูปฯ คือการบูรณาการทรัพยากรและกำลังคนเพื่อต่อต้านการทุจริต เพิ่มศักยภาพความเป็นผู้นำของพรรคในการต่อสู้กับการทุจริตรับสินบน และการสร้างระบบการกำกับดูแลแบบครบวงจรและมีประสิทธิภาพสำหรับประเทศ"

สมัชชาผู้แทนฯ ยังได้ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดี โดยสภาผู้ร่างกฎหมายฯ เห็นพ้องกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญสอดคล้องกับแรงบันดาลใจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประชาชน และได้รับการอนุมัติทั้งภายในและภายนอกพรรค

สี จิ้นผิง เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ และประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง กล่าวในการอภิปรายกับกลุ่มเจ้าหน้าที่ของสมัชชาผู้แทนฯ เมื่อวันพุธ (7 มี.ค.) ว่าการแก้ไขบางส่วนของรัฐธรรมนูญถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ โดยคณะกรรมการกลางฯ เพื่อสนับสนุนและพัฒนาสังคมนิยม แบบเอกลักษณ์จีนยุคใหม่

ในขณะที่การปฏิรูปและการเปิดเสรีฯ ซึ่งเริ่มเมื่อ 40 ปีที่แล้ว มีความคืบหน้าอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรัฐธรรมนูญของประเทศ โดยสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีรัฐธรรมนูญฉบับแรกในปีพ.ศ. 2497 รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้มีขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2525 และได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2531, 2536, 2542 และ 2547

ในช่วง 10 ปี ระหว่าง พ.ศ. 2531-2542 รัฐธรรมนูญ มีการแก้ไขเพิ่มเติม ด้านการปฏิรูปสิทธิการใช้ที่ดิน สถานะทางกฎหมายสำหรับเศรษฐกิจภาคเอกชน ทฤษฎีการสร้างลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะเฉพาะของจีน แทนที่คำว่า "เศรษฐกิจวางแผน" ด้วย "เศรษฐกิจตลาดสังคมนิยม" และการบัญญัติทฤษฎีของเติ้งเสี่ยวผิง เข้าไว้ในรัฐธรรมนูญ

การแก้ไขล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ในปีพ.ศ. 2547 ได้บัญญัติบทคุ้มครองทรัพย์สินส่วนตัวและสิทธิมนุษยชน และให้บัญญัติ “ความคิดสามตัวแทน” ของเจียงเจ๋อหมิน เข้าไว้ด้วย

ความคิดของผู้นำจีนทั้ง 5 รุ่น ซึ่งต่างได้รับการบรรจุเป็นความคิดนำในธรรมนูญพรรค ณ ปัจจุบันนี้ ได้แก่ “ความคิดเหมาเจ๋อตง”, “ทฤษฎีเติงเสี่ยวผิง”, “ความคิดสามตัวแทน” ของเจียงเจ๋อหมิน, “แนวคิดการพัฒนาอย่างเป็นวิทยาศาสตร์” ของหูจินเทา และล่าสุด “ความคิดของสีจิ้นผิงว่าด้วยสังคมนิยม อัตลักษณ์จีนสำหรับยุคใหม่”

รายงานข่าวกล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถเสนอได้ โดยคณะกรรมการสมัชชาผู้แทนประชาชนจีน หรือโดยผู้แทนมากกว่าหนึ่งในห้าของผู้แทนทั้งหมด และการรับรองจะต้องมีคะแนนเสียงอย่างน้อยสองในสามของผู้แทนสมัชชาทั้งหมด