ไชน่าเดลี (8 มี.ค.) - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน นายหวังอี้ ได้พบกับสื่อมวลชน เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม ในช่วงแรกของการประชุมสมัชชาผู้แทนประชาชนจีน (เอ็นพีซี) หรือรัฐสภาจีน ยกระดับการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และสร้างอนาคตร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับชุมชนอาเซียน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน นายหวังอี้ กล่าวว่า จีนจะยกระดับการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์และสร้างอนาคตร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับชุมชนอาเซียน โดยจีนจะยังคงให้ความร่วมมือกับอาเซียน ในวาระการประชุมความร่วมมือระหว่างประเทศในปีนี้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อกล่าวถึงเป้าหมายของกระทรวงต่างประเทศจีน ในปีพ. ศ. 2561 นายหวังอี้ กล่าวว่ากระทรวงฯ จะมีบทบาทอย่างแข็งขันในการอำนวยความสะดวกในการพัฒนาประเทศ เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับจีน และปกป้องผลประโยชน์ในต่างประเทศของจีน
นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศยังมีส่วนร่วมในการลดความยากจนและมีส่วนร่วมในการปฏิรูปและนโยบายการเปิดเสรี โดยทุกคนจะได้รับประโยชน์จากโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งทาง
โครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งทาง เป็นโครงการที่มีประโยชน์กับทุกฝ่ายฯ และเป็นไปตามกฎระหว่างประเทศ โดยเป็นเวทีสำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศ ดังนั้นหลักการดังกล่าวจึงเป็นไปตามหลักการตลาดเสรี
หวัง กล่าวตอบคำถามที่ชาวตะวันตกบางคนสงสัยว่า โครงการดังกล่าว จะมีความโปร่งใสและสอดคล้องกับกฎระเบียบระหว่างประเทศหรือไม่
"โครงการนี้เป็นความคิดริเริ่มที่โปร่งใส เปิดกว้างของประเทศจีน โดยเป็นไปตามกฎของการปรึกษาหารือร่วมกัน การมีส่วนร่วมและผลประโยชน์ร่วมกัน" นายหวัง กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มีความเสมอภาค รวมทั้งเป็นประโยชน์อย่างทั่วถึง
"ไม่มีประเทศที่มีอำนาจเหนือกระบวนการ ทุกฝ่ายมีความเท่าเทียมกัน ไม่มีข้อตกลงด้านหลังห้อง ทุกอย่างโปร่งใส ไม่มีผู้ชนะกินรวบ มีแต่ผลชนะร่วมกัน" นายหวัง กล่าวฯ และเสริมว่า "มีโครงการจำนวนมากที่ดำเนินการภายใต้โครงการนี้ อันเป็นการเพิ่มแรงกระตุ้นที่จำเป็นกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศเจ้าบ้าน"
หวังอี้ อ้างถึงตัวอย่าง สถานีพลังงานนับสิบแห่ง ได้ถูกสร้างขึ้นในปากีสถานเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงาน และ บริษัทของจีนซื้อโรงถลุงเหล็กของเซอร์เบีย โดยกลับมาเปิดใช้งานภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี และสามารถสร้างแรงงานในท้องถิ่นได้มากกว่า 5,000 ตำแหน่ง
"เราเสนอแนวคิดอย่างจริงใจกับทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันสร้างความสำเร็จในโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งทาง" นายหวัง กล่าว "เป้าหมายของเราคือไม่เพียงแต่ช่วยเสริมโครงสร้างการเชื่อมโยงทางกายภาพ ด้านโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างสถาบัน, กฎเกณฑ์และมาตรฐาน "
"โครงการริเริ่มนี้ต้องมีมาตรฐานสูง มีคุณภาพสูง ตลอดจนผลการดำเนินงานที่มุ่งเน้นประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ใช่เพียงเป็นประโยชน์ต่อประเทศจีน แต่เป็นประโยชน์กับประชาคมโลก"
"จีนไม่ใช่ภัยคุกคาม"
หวังอี้ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ "ทฤษฎีภัยคุกคามจีน" จะหมดไปจากความคิดของเพื่อนบ้าน ซึ่งผู้ที่ไม่มีอคติ หรือปฏิบัติตามมาตรฐานแบบทวิภาคี จะเห็นได้ว่าประเทศจีนไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่เป็นโอกาสร่วมกัน
"เช่นเดียวกับ "ทฤษฎีความล่มสลายของจีน" ที่มักจะมีการสร้างขึ้นเพื่อให้เกิดความผันผวนในตลาดหุ้นอันอารมณ์อ่อนไหว ก็ควรจะหยุดสมมติฐานเหล่านั้นได้แล้ว" นายหวัง กล่าวฯ