MGR ONLINE—จีนเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม 8.1 เปอร์เซ็นต์ สำหรับปี 2561 นี้ สูงกว่างบฯทหารเมื่อปีที่แล้วที่อยู่ที่ระดับ 7 เปอร์เซ็นต์ หรือราว 1 ใน 4 ของงบฯทหารสหรัฐฯ
ในรายงานร่างข้อเสนองบประมาณที่ยื่นต่อที่ประชุมสมัชชาผู้แทนประชาชนจีน (เอ็นพีซี) ชุดที่13 หรือสภานิติบัญญัติจีน ที่เปิดการประชุมครั้งแรกในวันนี้ (5 มี.ค.) ได้ระบุเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม 1.11 ล้านล้านหยวน (หรือ 175,000 ล้านเหรียญสหรัฐ)
“จีนจะพัฒนาด้านการทหารทุกด้าน ทั้งการฝึกฝน การเตรียมพร้อมต่อสู้สงคราม การปกป้องอธิปไตยแห่งชาติ ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาอื่นๆ” นายกฯหลี่ เค่อเฉียง กล่าวระหว่างการเปิดประชุมสภาเอ็นพีซีวันนี้ (5 มี.ค.)
นายกฯหลี่ กล่าวต่อว่า “ ขณะนี้สภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างลึกซึ้ง ดังนั้น จักต้องยึดถือและปฏิบัติตามอำนาจการนำที่เด็ดขาดของทหารภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์ ความสมานฉันท์ระหว่างรัฐบาลและกองทัพ ประชาชนและทหาร จะต้องแข็งแกร่งดั่งหิน”
หลี่เผยว่า จีนได้ลดขนาดกองทัพ 300,000 คน หลังจากที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงประกาศในปี 2558 เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ สร้างความทันสมัย
ทั้งนี้ กองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) นับเป็นกองกำลังที่ใหญ่สุดในโลก ด้วยขนาดนายทหารกำลังพลทั้งสิ้นราว 2 ล้านนาย คิดเป็น 0.18 เปอร์เซ็นต์ของประชากรจีน (กว่า 1.3 พันล้านคน)
รายงานข่าวซินหวาชี้ว่า แม้งบประมาณด้านกลาโหมสูงกว่าเมื่อสองปีก่อนหน้า แต่อัตราขยายตัวนี้ได้ลดลงมาอยู่ในระดับตัวเลขตัวเดียวเป็นครั้งที่สามแล้วนับจากปี 2556 โดยงบฯกลาโหมก่อนหน้า เท่ากับ 7.6 เปอร์เซ็นต์ในปี 2559 และ 7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2560
รายงานข้อเสนอระบุว่างบฯทหารมีสัดส่วนน้อยกว่าในจีดีพีจีน และค่าใช้จ่ายการคลังของประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอำนาจอื่น โดยค่าใช้จ่ายทางการทหารต่อหัวประชากร น้อยกว่าประเทศอำนาจอื่น จัง เย่ซุ่ย โฆษกที่ประชุมครั้งแรกของสมัชชาผู้แทนประชาชนจีน (เอ็นพีซี) ชุดที่13 กล่าวเมื่อวานนี้(4 มี.ค.)
“การเพิ่มงบฯกลาโหม เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายด้านทหารที่ต่ำในช่วงปีที่ผ่านมา และส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้สำหรับยกระดับอุปกรณ์ ปรับปรุงระบบสวัสดิการของทหาร การฝึกฝนและชีวิตความเป็นอยู่ของทหารระดับรากหญ้า” โฆษกเอ็นพีซี กล่าว
รายงานข่าวรอยเตอร์ส ระบุว่า ตัวเลขค่าใช้จ่ายทางทหารของจีน เป็นเป้าสายตาของโลก เพราะมันเป็นสิ่งบ่งชี้ถึงยุทธศาสตร์กองทัพจีน ที่กำลังพัฒนาความสามารถกองทัพใหม่ๆ ได้แก่ เครื่องบินขับไล่เทคโนโลยีหลบหลีกเรดาร์ หรือสเตลท์ เรือบรรทุกเครื่องบิน และขีปนาวุธต่อต้านดาวเทียม
การเพิ่มงบทหารในปีนี้ เป็นความเคลื่อนไหวหลังจากการเติบโตเศรษฐกิจจีนกระเตื้องขึ้น 6.9 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว นับเป็นอัตราเร่งครั้งแรกในการเติบโตประจำปีนับจากปี 2553 มา แต่จีนก็ได้ตั้งเป้าจีดีพีในปี 2561 นี้ ที่ 6.5 เปอร์เซ็นต์ ระดับเดียวกับการตั้งเป้าอัตราเติบโตเมื่อปีที่แล้วซึ่งผลประกอบการออกมาเกินเป้า
สำหรับงบฯกลาโหมของพญามังกรเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับ 1.044 ล้านล้านหยวน (164,600 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือ เท่ากับ ราว 1 ใน 4 ของข้อเสนองบฯทหารสหรัฐฯในปีนั้น
รายงานข่าวรอยเตอร์ส ชี้ว่าจีนไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดการจัดสรรงบฯกลาโหม ทำให้เพื่อนบ้านและชาติอำนาจทหารรายอื่น พากันบ่นว่าปักกิ่งไม่มีความโปร่งใส และสร้างความตึงเครียดแก่อาณาบริเวณ
การขยายแสนยานุภาพทางทหารของจีน ได้สร้างความไม่สบายใจแก่เหล่าเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวในเขตดินแดนพิพาทเรื่องกรรมสิทธิในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ รวมทั้งความขัดแย้งไต้หวัน ซึ่งจีนนับเป็นมณฑลหนึ่งของตน
ระหว่างการแถลงในพิธีเปิดการประชุมครั้งแรกของสภาเอ็นพีซีชุดที่ 13 ในวันนี้ นายกฯหลี่ ประกาศว่า “จีนจะไม่ทนต่อการเคลื่อนไหวอิสรภาพของไต้หวัน”
“เรายังคงเหนียวแน่ในการปกป้องอธิปไตยจีน และบูรณภาพแห่งดินแดน” หลี่กล่าว