รอยเตอร์ส - ขาใหญ่แห่งวงการต่อเรือแดนมังกรออกมาเผยผ่านสื่อทางการว่า “จีนพร้อมต่อเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม หลังจากบ่มเพาะความสามารถทางเทคนิคจนมีความเชี่ยวชาญอย่างรอบด้านแล้ว”
ข้อความดังกล่าวสอดรับกับคำมั่นของสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ที่เอ่ยเมื่อเดือนต.ค. ปีก่อนว่าจะปรับปรุงกองทัพจีนสู่ “กองกำลังระดับโลก” ภายในปี 2593 และยกการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เป็นนโยบายสำคัญ โดยทุ่มลงทุนในเครื่องบินรบล่องหน เรือบรรทุกเครื่องบิน และขีปนาวุธ
จีนนั้นมีเรือบรรทุกเครื่องบินประจำการอยู่แล้วหนึ่งลำชื่อว่า “เหลียวหนิง” (Liaoning) ซึ่งเป็นเรือมือสองยุคโซเวียตที่ซื้อต่อจากยูเครนในปี 2541 ส่วนปัจจุบันจีนกำลังทดสอบเรือบรรทุกเครื่องบินที่ต่อขึ้นเองลำแรก ซึ่งเปิดตัวในปีก่อนและคาดว่าจะเข้าประจำการในปี 2563
หลิว เจิง ประธานบริษัทอุตสาหกรรมการต่อเรือต้าเหลียน (Dalian Shipbuilding Industry) ในมณฑลเหลียวหนิง กล่าวกับสื่อทางการ ไชน่า เดลี ว่าบริษัทของเขาและบริษัทแม่อย่างบริษัทอุตสาหกรรมการต่อเรือแห่งประเทศจีน (China Shipbuilding Industry Corp) สามารถออกแบบและต่อเรือลำใหม่ได้
“เราถือสิทธิครอบครองความรู้ความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ ทั้งการออกแบบ เทคโนโลยี เทคนิค การผลิต และการจัดการโครงการ ซึ่งล้วนจำเป็นสำหรับการต่อเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีความก้าวหน้า” หลิวกล่าว “เราพร้อมจะต่อเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่ขึ้นแล้ว”
ด้านบริษัทแม่ซึ่งจัดเป็นค่ายต่อเรือรายใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าบริษัทกำลังพัฒนาเทคโนโลยี สำหรับการต่อเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ แต่ไม่มีการเผยรายละเอียดเชิงลึกออกมา เนื่องจากจีนถือว่าเป็นความลับของชาติ
สื่อทางการจีนอ้างคณะผู้เชี่ยวชาญบอกว่าจีนต้องการเรือบรรทุกเครื่องบินอย่างน้อย 6 ลำ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่คาดว่าต้องใช้เวลาอีกหลายทศวรรษ ขณะสหรัฐอเมริกานั้นมีเรือบรรทุกเครื่องบินประจำการอยู่ 10 ลำ และวางแผนจะต่อเพิ่มอีกสองลำ
ทั้งนี้ จีนจะเปิดเผยงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ ปี 2561 ในวันจันทร์ (5 มี.ค.) ซึ่งเป็นเรื่องจับตามองจากคนในภูมิภาคและรัฐบาลวอชิงตันของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากสะท้อนให้เห็นสัญญาณความมุ่งมั่นทางการทหารและทางยุทธศาสตร์ของจีน
หลังจากกองทัพเรือจีนเริ่มมีบทบาทโดดเด่นเพิ่มมากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเห็นชัดเจนจากกรณีเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิงแล่นรอบเกาะไต้หวัน หรือกรณีกองเรือรบจีนล่องไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่อันห่างไกลอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน