ไชน่าเดลี (13 ธ.ค.) - ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เข้าร่วมพิธีรำลึกผู้เสียชีวิตจากการสังหารหมู่หนานจิง เมื่อเช้าวันพุธที่ 13 ธันวาคม ที่พิพิธภัณฑ์การสังหารหมู่หนานจิง ในเมืองหนานจิง
ประวัติศาสตร์มืดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ของการสังหารหมู่ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2480 กองทัพญี่ปุ่นผู้รุกรานจีนได้ยึดครองหนานจิง เมืองหลวงจีนในขณะนั้น ปล้นสะดม ข่มขืน และฆ่าชาวจีนอย่างไร้ความปราณี ชาวจีนกว่า 300,000 คนถูกสังหารโดยกองทัพญี่ปุ่น ในช่วงหกสัปดาห์ถัดมา
รัฐบาลจีนได้กำหนดให้วันที่ 13 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันรำลึกถึงเหยื่อการสังหารหมู่หนานจิง และปีนี้ เป็นปีครบรอบที่ 80
ความจริงทางประวัติศาสตร์
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เคยกล่าวถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้ในหลายวาระโอกาส อันมีดังนี้
"ประวัติศาสตร์ คือข้อเท็จริง ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลง ปิดบังข้อเท็จริงเพื่อเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ใครก็ตามที่เจตนาบิดเบือน ปฏิเสธ หรือปั้นแต่งประวัติศาสตร์ จะไม่มีวันได้รับความยินยอมจากชาวจีนและประชาคมโลก" (ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงกล่าวเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 พิพิธภัณฑ์สงครามต่อต้านคนจีนที่ต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น ในกรุงปักกิ่ง )
"การลืมอดีต คือการทรยศ ... ประชาชนสองชาติ จีนและรัสเซียจะยืนหยัดร่วมกับเหล่าประเทศที่รักสันติ ต่อต้านการพยายามหรือการกระทำใดๆ เพื่อปฏิเสธ บิดเบือน หรือยุ่งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ข้อเท็จจริงสงครามโลกครั้งที่สอง" (ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เขียนบทความใน Gazette ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2558)
"ความทุ่มเทอันยิ่งใหญ่ของชาวจีน ในการต่อต้านสงครามฟาสซิสต์ของโลก ควรได้รับการจดจำ เราต้องรักสันติ ในขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังประวัติศาสตร์ซ้ำรอยในอนาคตด้วย" (ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวในระหว่างการเยี่ยมชมนิทรรศการ 70 ปีแห่งชัยชนะของสงครามต่อต้านการรุกรานของจีนในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558)
