ซินหวา--จีนกำลังนับถอยหลังเปิดบริการเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อมระหว่างนครเฉิงตู และนครซีอัน ซึ่งจะประหยัดเวลาในการเดินทางระหว่างสองเมืองดังกล่าว กว่า 10 ชั่วโมง คาดกระตุ้นการท่องเที่ยวถิ่นแพนด้าและเมืองหุ่นดินเผานักรบจิ๋นซีฮ่องเต้
เมื่อวานนี้(22 พ.ย.) จีนได้ทดลองการเดินรถรถไฟหัวกระสุนจากนครเฉิงตูในมณฑลเสฉวนทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ไปยังนครซีอันในมณฑลส่านซีทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ระยะทาง 643 กม. ย่นเวลาการเดินทางระหว่างสองหัวเมืองใหญ่นี้จากปัจจุบัน 16 ชั่วโมง เหลือเพียงราว 3 ชั่วโมงเท่านั้น! เป็นเส้นทางรถไฟสายแรกที่ตัดผ่านเทือกเขาฉินหลิง
นางซย่า หย่งจิง เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลข่าวสารของไชน่า เรลเวย์ เฉิงตู กรุ๊ป กล่าวคาดการณ์ว่าเส้นทางรถไฟความเร็วสูงซีอัน-เฉิงตู จะเปิดให้บริการผู้โดยสารอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 พ.ย. อัตราความเร็วขบวนรถไฟที่วิ่งในเส้นทางนี้ เท่ากับ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยจะวิ่งผ่านเต๋อหยาง เหมียนหยาง และกว่างหยวนในมณฑลเสฉวน และหนิงเฉียง, ฮั่นจงในมณฑลส่านซี
หลี่ หลิน ผู้จัดการเอเจนซีจัดทริปท่องเที่ยวในเฉิงตู คาดหวังว่าการเปิดบริการขบวนรถไฟจ้าวความเร็วเส้นทางนี้จะกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวคึกคักขึ้น
“ในอดีต แทบไม่มีใครในเสฉวนคิดจะมาเที่ยวซีอัน ทั้งที่ซีอันอุดมด้วยแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำ หุ่นดินเผานักรบโบราณยุคจิ๋นซีฮ่องเต้ และแหล่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญอื่นๆ เช่น วัดเจดีย์ห่านขาว และวังเต๋อหมิง มาชิมอาหารที่ขึ้นชื่ออย่าง เมนูแพะ และซุปขนมปัง” หลี่ กล่าว
นครซีอันเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์จักรพรรดิจีนถึง 13 ราชวงศ์ เป็นศูนย์กลางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม เป็นเวลายาวนานกว่า 1,100 ปี หุ่นดินเผานักรบจิ๋นซีฮ่องเต้ ทำให้ซีอันเป็นที่รู้จักทั่วโลก
สำหรับเมืองกว่างหยวน ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก เป็นที่ตั้งของเส้นทางเก่าแก่นับพันปี คือ “เส้นทางสู ” (蜀道/Shu Path)
จาง หู หัวหน้าฝ่ายยื่นคำร้องขอสถานภาพมรดกโลกของสำนักงานการพัฒนาและบ้านที่อยู่อาศัยในมณฑลเสฉวน กล่าวว่าในยุคโบราณ เสฉวนมีชื่อว่า “สู” เส้นทางนี้ มีระบบคมนาคมทางบกที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เนื่องจากเป็นเขตธรณีวิทยาที่ซับซ้อน เส้นทางอันตรายที่สุด อีกทั้งอุดมด้วยแหล่งประวัติศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่ง
การบุกเบิกก่อสร้างเส้นทางเชื่อมระหว่างเสฉวนและส่านซีนี้ เริ่มในสมัยราว 316 ปี ก่อนค.ศ. เป็นเส้นทางที่ทอดยาวไปบนเทือกเขา กวีชื่อก้องของจีน หลี่ ไป๋ (ค.ศ.701-762) ได้เขียนบทกวีถึงเส้นทางนี้ “รอนแรมไปบนเส้นทางสู ยากเข็นดั่งปีนป่ายมหาภูผาสู่สรวงสรรค์”