MGR ONLINE /ปักกิ่ง--ที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือซีพีซี ครั้งที่ 19 รับรองธรรมนูญพรรคฯฉบับปรับแก้ พร้อมรับรองหลักความคิดสี จิ้นผิง ว่าด้วยลัทธิสังคมนิยมอัตลักษณ์จีนแห่งยุคใหม่ เทียบชั้นความคิด เหมา เจ๋อตง หลักทฤษฎีเติ้ง เสี่ยวผิง เป็นต้น พร้อมกันนี้ ธรรมนูญปรับแก้ใหม่ ยังระบุพรรคฯมีอำนาจการนำเด็ดขาดเหนือกองทัพ
ระหว่างพิธีปิดการประชุมสมัชชาใหญ่ซีพีซี ครั้งที่ 19 ณ มหาศาลาประชาคมจีนในวันนี้(24 ต.ค.) ที่ประชุมฯลงมติด้วยเสียงเอกฉันท์ รับรองธรรมนูญพรรคฯฉบับปรับแก้ โดยมีผลบังคับใช้ ณ วันที่รับรอง
ที่ประชุมเห็นพ้องอย่างเป็นเอกฉันท์ ผนวกความคิดสี จิ้นผิง ว่าด้วยลัทธิสังคมนิยมอัตลักษณ์จีนแห่งยุคใหม่ในธรรมนูญพรรคฯ ต่อจากลัทธิมากซ์-เลนิน ความคิดเหมา เจ๋อตง หลักทฤษฎีเติ้ง เสี่ยวผิง หลักทฤษฎีสามตัวแทน แนวคิดเชิงวิทยาศาสตร์ในการพัฒนา
ข้อตกลงที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ ระบุว่าความคิดสี จิ้นผิง ว่าด้วยลัทธิสังคมนิยมอัตลักษณ์จีนแห่งยุคใหม่ ก่อรูปขึ้นนับจากสมัชชาพรรคฯชุดที่ 18 ซึ่งสี จิ้งผิงเป็นหัวหน้าผู้แทนพรรคฯ โดยเป็นผลมาจากการปฏิบัติงานเพื่อตอบสนองการพัฒนาในปัจจุบัน และควบรวมหลักทฤษฎีสู่การปฏิบัติ ที่ได้แก้ไขปัญหาหลักของประเทศอย่างเป็นระบบ
ความคิดสี จิ้นผิงฯ เป็นพัฒนาการต่อเนื่องจากลัทธิมากซ์-เลนิน ความคิดเหมา เจ๋อตง หลักทฤษฎีเติ้ง เสี่ยวผิง หลักทฤษฎีสามตัวแทน แนวคิดเชิงวิทยาศาสตร์ในการพัฒนา และเป็นความสำเร็จล่าสุดในการปรับใช้ลัทธิมากซ์เข้ากับบริบทสังคมจีน
ข้อตกลงที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ ยกย่องความคิดใหม่ของสี จิ้นผิง เป็นใจกลางลัทธิสังคมนิยมอัตลักษณ์จีน และเป็นหลักแนะแนวการปฏิบัติทั้งของพรรคฯและชาวจีนทั้งมวล เพื่อร่วมกันผลักดันการฟื้นฟู (rejuvenation) ที่ยิ่งใหญ่ของประชาชาติจีน โดย “จะต้องยึดถือปฏิบัติในระยะยาว และพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ”
สมัชชาพรรคฯ ได้รับรอง “สองเป้าหมายแห่งรอบ 100 ปี” และความฝันจีนในการฟื้นฟูชาติ(national rejuvenation) ผนวกไว้ในรัฐธรรมนูญพรรคฯด้วย
ทั้งนี้“สองเป้าหมายแห่งรอบ 100 ปี” ได้แก่ การบรรลุฝันในวาระครบรอบ 100 ปี การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในปี 2021 คือการสร้างสังคมกินดีอยู่ดีถ้วนหน้า และการบรรลุฝันครบรอบ 100 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2049 คือ สังคมนิยมสมัยใหม่
ในข้อตกลงที่ประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ ยังได้รับรอง แนวคิดใหม่ๆ ยุทธศาสตร์และความคิดต่างๆที่ผลักดันโดยคณะกรรมการกลางพรรคฯที่มีสี จิ้นผิงเป็นใจกลาง ผนวกในธรรมนูญพรรคฯ อาทิ กำหนดให้ปัจจัยทางตลาดมีบทบาทชี้ขาดการจัดสรรทรัพยากร ผลักดันการปฏิรูปเชิงโครงสร้างด้านอุปทาน (supply-side structural reform) และส่งเสริมอำนาจละมุน (soft power) ด้านวัฒนธรรม
ที่ประชุมสมัชชาฯตกลงจารึกวัฒนธรรมลัทธิสังคมนิยมอัตลักษณ์จีน ไว้ในธรรมนูญพรรคฯ
ในธรรมนูญพรรคฯยังผนวกรวมการประเมินการเปลี่ยนแปลงใน “ความขัดแย้งหลัก” ที่สังคมจีนเผชิญอยู่เป็นพื้นฐานสำคัญในการกำหนดนโยบายหลักและยุทธศาสตร์ระยะยาว ซีพีซีระบุว่า “ความขัดแย้ง” ที่ซีพีซีเผชิญอยู่ ได้แก่ “การพัฒนาที่ไม่สมดุลและไม่เพียงพอ” และความต้องการชีวิตที่ดีกว่าของประชาชนที่กำลังขยายตัวมากขึ้นๆ
พรรคฯถือครองอำนาจการนำเด็ดขาดเหนือกองทัพ
ในธรรมนูญฉบับปรับแก้ของพรรคฯ ยังได้ผนวกรวมความคิดด้านการทหารของสี จิ้นผิง พร้อมกับรับรองให้พรรคฯมีอำนาจการนำเด็ดขาด (absolute leadership) เหนือกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (พีแอลเอ) และกองกำลังแห่งประชาชนอื่นๆทุกหน่วยเหล่า อีกทั้งปฏิบัติตามแนวคิดของสี จิ้นผิงว่าด้วยการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กองทัพ เสริมสร้างการพัฒนากองทัพโดยส่งเสริมความจงรักภักดีทางการเมือง การปฏิรูปและเทคโนโลยี, และปฏิบัติการที่สอดคล้องกับกฎหมาย อีกทั้งสร้างกองทัพประชาชนที่เชื่อฟังคำบัญชการของพรรคฯ เป็นต้น
โดยการผนวกรวมฯดังกล่าว จะประกันอำนาจการนำที่เด็ดขาดของพรรคฯเหนือกองทัพ พัฒนาความทันสมัยแก่การป้องกันประเทศและการทหาร ส่งเสริมความสมานฉันท์ระหว่างชนเชื้อต่างๆ และยกระดับมาตรฐานการเปิดกว้างเศรษฐกิจ
ผนวก “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” เข้าในธรรมนูญพรรคฯ
ซีพีซี ยังได้รวมการผลักดันการพัฒนา “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ไว้ในธรรมนูญพรรคฯ
ทั้งนี้ สี จิ้นผิงได้เสนอความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ในปี 2013 โดยมีเป้าหมายสร้างเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานและการค้า เชื่อมโยงเอเชีย ยุโรป แอฟริกา ตามแนวเส้นทางสายไหมยุคโบราณ อันประกอบด้วยเขตเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม และเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21