MGR ONLINE--ระหว่างพิธีเปิดฟอรัมความร่วมมือสื่อเพื่อ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ปี 2017 ที่เมืองตุนหวง (2017 Media Cooperation Forum on Belt and Road) เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ผู้จัดงานหนังสือพิมพ์ประชาชนจีนได้เชิญผู้กล่าวคำปราศรัย ได้แก่ตัวแทนสื่อ ผู้บริหารสถาบันองค์กรจากประทศต่างๆ ทั้งผู้นำผู้บริหารบริษัท รวมกว่า 20 คน สำหรับรายงานชิ้นนี้ผู้เขียนขอแบ่งปันสาระที่ผู้นำภาคบริษัทนำเสนอและสะท้อนยุคสมัยใหม่
โรบิน หลี่ หรือ ชื่อจีน คือ หลี่ เยี่ยนหง (李彦宏 )วัย 49 ปี ผู้ก่อตั้งร่วม ประธาน และซีอีโอ บริษัท ไป่ตู้ (百度 )ไป่ตู้ ก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ปัจจุบันได้ทำสถิติโลก ได้แก่ บริษัทเสิร์ช เอนจินรายใหญ่อันดับสองของโลก และครองอันดับหนึ่งในกลุ่มบริษัทเสิร์ชเอ็นจินที่ใช้ภาษาจีน
หลี่ได้กล่าวถึงประเด็นความท้าทายแห่งยุคเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประการแรกคือสถานการณ์ร่วมของสื่อโลก “ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา กลุ่มสื่อเผชิญความท้าทายจากเทคโนโลยีใหม่ จากยุคอินเทอร์เน็ตบูมช่วงแรกๆเนื้อหาหลักบนโลกออนไลน์เป็นการสื่อสารด้วยข้อความตัวอักษร กลุ่มสื่ออย่างหนังสือพิมพ์ประชาชน ต่างรู้สึกถึงแรงปะทะจากอินเทอร์เน็ต ตามด้วยการพัฒนาอัตราความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ยิ่งนับวันยิ่งแรงเร็ว รูปภาพไหลบ่าท่วมโลกออนไลน์ กลุ่มนิตยสารโดยเฉพาะนิตยสารแฟชั่นที่พึ่งพิงการใช้รูปภาพสวยๆดึงดูดผู้อ่านเป็นหลักนั้น ถูกจู่โจมอย่างหนักหน่วง ปัจจุบันวิดีโอคลิปแพร่หลายบนโลกออนไลน์อย่างถ้วนทั่ว โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโพน ก็แผ่อิทธิพลอย่างดุเดือด การดูวิดีโอคลิปบนโทรศัพท์มือถือกลายเป็นความเคยชินในวิถีชีวิตผู้คน ปรากฏการณ์ดังกล่าวดั่งคลื่นลูกใหญ่ที่โหมซัดวงการสถานีโทรทัศน์ กลุ่มคนรุ่นใหม่ดูรายการโทรทัศน์กันน้อยลงๆ”
“ความต้องการบริโภคเนื้อหาวิดีโอคลิปในกลุ่มคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่พุ่งกระฉูด พฤติกรรมที่เราพบเห็นทุกวี่วัน คือก่อนกินอาหารมื้อเที่ยง กลุ่มคนทำงานตามสำนักงานบริษัทใช้เวลา 10 นาที ค้นหาวิดีโอคลิปที่พวกเขาชอบดู วางโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะอาหารแล้วจึงค่อยกินอาหารมื้อเที่ยง ดังนั้นรูปแบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บริการ-เนื้อหา-สื่อ เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง สถานกาณณ์ดังกล่าวเรียกร้องให้กลุ่มบริษัทสื่อต้องไล่กวดตามการปฏิวัติด้านเทคโนโลยี ต้องปรับปรุงเนื้อหาอย่างไม่หยุดยั้ง ต้องปรับตัวให้ทันยุคใหม่”
“ทุกวันนี้ โลกยังคงเข้าสู่ยุคใหม่ที่พลิกโฉมไปอีก ในประเทศจีนอินเทอร์เน็ตซึมซับสู่ชีวิตผู้คนคิดเป็นอัตราสูงถึง 50 เปอร์เซนต์ สื่อบางกลุ่มบอกว่าการจู่โจมของอินเทอร์เน็ตน่าจะจบสิ้นลงแล้ว แต่ผมมองในทางตรงกันข้าม ทีจริงแล้วการปะทะจู่โจมของเทคโนโลยีต่อกลุ่มสื่อนั้น เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ในโลกสมัยใหม่ของยุคปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) หลายๆสิ่งที่ก่อนหน้านี้เราไม่กล้าคิด ปัจจุบันได้สำเร็จเป็นจริงแล้ว”
“ดังนั้น สำหรับกลุ่มสื่อเก่า เหล่าบรรณาธิการ ผู้สื่อข่าว ต่างรู้สึกถึงความท้าทายต่อความมั่นคงในสายอาชีพ สื่อต่างประเทศรายงานข่าวออกมามากมายท่วมท้น แต่เนื้อหาโดยทั่วไปก็เหมือนๆกัน แทบไม่มีอะไรแตกต่างกัน ซึ่งจริงๆแล้วบทความเหล่านี้อาจใช้อุปกรณ์เครื่องจักรกลเขียนออกมา อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่ายังมีพื้นที่สำหรับบรรณาธิการและผู้สื่อข่าวฝีมือดีมีคุณภาพ ไม่ว่าเครื่องจักรกลจะก้าวล้ำสมัยเพียงใด ก็มิสู้สติปัญญาของมนุษย์ คนจะใช้เทคโนโลยีอย่างไร จะใช้ข่าวสารข้อมูลที่ได้รับมาอย่างไร การรายงานข่าวที่มีคุณภาพสูง การนำเสนอเนื้อหาที่ทรงคุณภาพ นี่คือโอกาสที่เปิดรอกลุ่มสื่อมวลชนในอนาคต ผมคิดว่ามันเป็นความท้าทายใหญ่”
ประการที่สอง นาย หลี่ กล่าวถึงความร่วมมือสื่อภายใต้กรอบความริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ในอนาคตยุค AI เราจะขจัดอุปสรรคในการสื่อสารกันผ่านความร่วมมือ ปัจจุบันไป่ตู้ได้พัฒนาโปรแกรมแปลถึง 28 ภาษา คุณภาพการแปลอาจไม่ดีเท่ากับคนแปล แต่ก็สามารถสื่อสารกันเข้าใจโดยพื้นฐาน การพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต จะลดอุปสรรคการสื่อสารระหว่างกลุ่มประเทศความร่วมือ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ลงไปได้อีกมากโข นี่คือโอกาสในการความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านข้อมูล
จักรยานกลับคืนสู่ท้องถนน ร่วมช่วยการพัฒนาที่ยั่งยืน
ในอดีตประเทศจีนได้ชื่อว่าเป็น “ดินแดนราชาจักรยาน” ประชาชนสัญจรโดยจักรยานเป็นหลัก เมื่อเศรษฐกิจจีนผงาดรุ่งโรจน์ ประชาชนมั่งคั่งขึ้น จำนวนรถยนต์เพิ่มพูนเป็นจ้าวถนน ขณะที่กองทัพจักรยานก็บางตาลง ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจักรยานได้กลับคืนสู่ท้องถนนในจีนในรูปแบบของจักรยานแบ่งปัน ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและสุขภาพในขณะที่วิกฤตมลพิษกำลังคุกคามสุขภาพประชาชน
ไต้ เหวย ผู้ก่อตั้ง และซีอีโอ ofo จ้าวจักรยานแบ่งปันรายใหญ่ของจีน ทำสถิติผู้ประกอบการวัยละอ่อนสุด เพียง 27 ปี ที่สร้างธุรกิจ 10,000 ล้านหยวน หรือราวกว่า 50,000 ล้านบาท เขาได้รับเชิญขึ้นกล่าวคำปราศรัยบนเวทีความร่วมมือสื่อ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง “สองปีกว่าที่ผมและเพื่อนๆได้ร่วมกันสร้างจักรยานน้อยสีเหลือง ofo สร้างสรรค์รูปแบบการสัญจรที่ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนและสุขภาพ สองปีที่ผ่านมาเราได้ส่งออกจักรยานแบ่งปันไปทั่วโลกมากกว่า 9 ประเทศ แล้ว อาทิ สิงคโปร์ ไทย อังกฤษ ออสเตรเลีย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ซึ่งหลายประเทศได้เข้าร่วมความร่วมมือ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ofo ให้บริการด้านการสัญจรที่คล่องตัวแก่คนร่วม 200 ล้านคน ให้บริการการเดินทางกว่า 4,000 ล้านเที่ยว”
“ยุคอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันกำลังเปลี่ยนไปสู่ยุคเทคโนโลยีและยุคข่าวสารที่มุ่งใช้พลังงานใหม่เป็นพื้นฐาน พวกเราต้องการแนวคิดการพัฒนาใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ รูปแบบการบุกเบิกธุรกิจใหม่ เพียงสองปีกว่า เราได้กลายเป็นผู้นำด้านการสัญจรของโลก”
“รายงานไตรมาสที่สองของปีนี้ ที่สรุปผลจากข้อมูลแผนที่กูเกิลและแผนที่ไป่ตู้ ระบุว่า ดัชนีการจราจรติดขัดตามเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างตง ลดลง 4.8 % โดยสาเหตุหลักอขงการลดลงนี้คือ จักรยานแบ่งปัน” ไต้ เล่า