"พลังภาพ" ฟื้นเส้นทางสายไหมเมืองต้าถง สู่ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”

MGR ONLINE/ต้าถง --“เมืองต้าถง” เปิดกิจกรรมใหญ่แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในกลุ่มสื่อจากประเทศที่เข้าร่วมความริเริ่ม “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ นิทรรศการวัฒนธรรมภาพถ่ายนานาชาติ "พลังภาพ” จีน (ต้าถง) ประจำปี 2017 (ชื่อภาษาอังกฤษ: 2017 'Power of the Image' China (Datong) International Photographic Culture Exhibition) และกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ “โลกแห่งความสมานฉันท์” (ชื่อภาษาอังกฤษ: “The World in Harmony” Belt and Road International Omnimedia Cultural Exchange Event)

พิธีเปิดกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมดังกล่าว จัดขึ้น ณ บริเวณถ้ำผาพุทธศิลป์ อวิ๋นกังแห่งเมืองต้าถงเมื่อวันเสาร์ โดยมีกลุ่มผู้กล่าวเปิดงาน อาทิ สมาชิกคณะกรรมการประจำพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมณฑลซันซี และเลขาธิการคณะกรรมการเมืองต้าถง นาย จาง จี๋ฝู, ไต้ หลัน ที่ปรึกษากรมข่าวสารข้อมูล สังกัด กระทรวงต่างประเทศจีน ได้ขึ้นกล่าวในพิธีเปิดงานฯ ในงานยังมีเอกอัครราชทูตแห่งปากีสถานประจำจีน เจ้าหน้าที่กรรมทูตจากมองโกเลีย เนเธอร์แลนด์ เป็นต้น เข้าร่วมงานฯ

หลังจากเปิดกิจกรรมฯ กลุ่มสื่อกระแสหลักจากเกือบ 20 ประเทศ เข้าร่วมกิจกรรมชมถ้ำพุทธศิลป์ อวิ๋นกัง และงานชุมนุมดื่มชาบนเส้นทางสายไหม (Tea Gathering on Silk Road) ท่ามกลางการบรรเลงดนตรีจีนโบราณ

กิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในกลุ่มสื่อจากประเทศที่เข้าร่วม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทางนี้ จัดขึ้นโดยคณะจัดงานร่วม ได้แก่ สถานีวิทยุแห่งประเทศจีน หรือ ซีอาร์ไอ (China Radio Internatoonal) สมาคมการทูตสาธารณะแห่งจีน (China Public Diplomacy Association) กลุ่มสื่อแห่งต้าถง (Datong Daily Media Group), สถาบันการวิจัยถ้ำพุทธศิลป์แห่งอวิ๋นกัง ต้าถง (Datong Yungang Grottoes Research Institute)

ในช่วงค่ำคืนวันเสาร์ มีพิธีมอบรางวัลภาพถ่าย 2017 “Power of the Image” พร้อมโชว์การแสดงบนเวทีจากคณะศิลปะการแสดงจีนชั้นนำ ถึง 13 ชุด

ผู้จัดได้มอบรางวัลภาพถ่ายประเภทต่างๆได้แก่ “Power of the Image” Internet Popularity Awards ให้แก่กลุ่มช่างภาพชาวจีน 10 คน และได้จัดรางวัลใหญ่ “Power of the Image” ให้แก่ชางภาพจีน 6 คน โดยผู้ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมที่หนึ่งคือ เฉิน เหยียนชิว ผู้ชนะรางวัลที่สอง คือ เหอ จินชุน, จาง เหอผิง และผู้ชนะรางวัลที่สาม ได้แก่ จุย เฟิง, เจ้า ฟู่อี้, และซุน จินจวิน

นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัล Best Image Awards ให้แก่ กลุ่มช่างภาพมืออาชีพชาวต่างชาติ ได้แก่ ช่างภาพชาวปากีสถาน ช่างภาพชาวรัสเซีย และช่างภาพชาวเนเธอร์แลนด์

ทั้งนี้ เมืองต้าถงจัดนิทรรศการวัฒนธรรมภาพถ่ายนานาชาติ "พลังภาพ” จีน (ต้าถง) ทุกปี โดยปีนี้นับเป็นครั้งที่ 3

ต้าถง หรือเมืองผิงเฉิง （平城）ในยุคที่เป็นนครหลวงของราชวงศ์เหนือ หรือเป่ยเว่ย （北魏） (ค.ศ. 386 - 581) เป็นจุดเริ่มต้นเส้นทางสายไหมยุคโบราณ เป็นศูนย์กลางพบปะระหว่างพ่อค้าชาวจีน และพ่อค้าชาวต่างชาติ จึงเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนและตะวันตก เป็นเแหล่งผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย ด้วยความเป็นนครเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ 1,600 กว่าปี จึงได้ทิ้งมรดกประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่มาจวบจนปัจจุบัน

ด้วยความเป็นนครเก่าแก่ ต้าถงจึงเป็นฐานในการเปลี่ยนถ่าย และกระตุ้นการพัฒนา ภายใต้ ความริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้น โดยระหว่าง 2-3 ปีมานี้ ต้าถงแห่งมณฑลซันซี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตภาคเหนือของประเทศจีน ได้ควบรวมการพัฒนากับเขตพัฒนาเศรษฐกิจ “ปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ย” และเข้าร่วมการสรรค์สร้าง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” เพื่อทะยานขึ้นเป็น “เมืองศูนย์กลางภูมิภาค” (Regional Central City) โดยเชื่อมโยงกับกรุงปักกิ่งทางทิศตะวันออก, เส้นทางสายไหมทางทิศตะวันตก, ซานจิ้น （三晋）ทางทิศใต้ และมองโกเลียและรัสเซียทางทิศเหนือ

ตะลุยชมวัดโบราณย้อนมองความรุ่งโรจน์เมืองเก่าต้าถง
กลุ่มสื่อจีน-เทศได้ชมความยิ่งใหญ่ของมรดกวัฒนธรรมเมืองต้าถงหลายแห่งที่ตลอดสองวัน(23-24 ก.ย.) เริ่มจากถ้ำผาแกะสลักพุทธศิลป์แห่งอวิ๋นกัง （云冈石窟）ซึ่งเริ่มสร้างในช่วงปีค.ศ. 453 ตรงกับสมัยราชวงศ์เหนือ และแล้วเสร็จในราวปี ค.ศ. 494 ราวเวลาก่อสร้างราว 50 ปี ถ้ำผาพุทธศิลป์อวิ๋นกังที่มีอายุเก่าแก่ 1,500 กว่าปีแห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ปีค.ศ.2001

นอกจากนี้ยังได้เยี่ยมชมวัดอารามเก่าแก่ และแหล่งประวัติศาสตร์อายุนับ 1,000 ปี ได้แก่ วัดหวาเหยียน （华严寺）ซึ่งเป็นวัดหลวงสมัยราชวงศ์เหลียว (ค.ศ. 916 - 1125) ก่อสร้างในช่วงปีค.ศ. 1038 ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบเหลียว-จิน ที่รักษาสภาพดั้งเดิมไว้ค่อนข้างสมบูรณ์ วัดนี้ เสมือน “พิพิธภัณฑ์ศิลปะราชวงศ์เหลียว”

กำแพงเก้ามังกร （九龙壁） ซึ่งสร้างในราชวงศ์หมิง รัชสมัยหงอู่ （明洪武）ปี ค.ศ. 1392 ความยาวตัวกำแพง 45.5 เมตร ความสูง 8 เมตร ความกว้าง 2.02 เมตร

สุเหร่าอิสลาม （清真大寺）เริ่มสร้างในสมัยราชวงศ์ถัง ค.ศ. 628 และบูรณะใหญ่ในสมัยราชวงศ์ชิง ราวปีค.ศ. 1742 ถือเป็นสุเหร่าเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ 1,200 กว่าปี เปี่ยมด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศิลปะ

กำแพงเมืองต้าถง （大同城墙）ตัวกำแพงสร้างในราชวงศ์หมิง รัชสมัยหงอู่ ปี ค.ศ. 1372 โดยสร้างทับกำแพงเมืองเก่าราชวงศ์หยวน

ในวันสุดท้ายของการเข้าร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเมืองต้าถง กลุ่มสื่อได้ชมวัดพุทธเก่าแก่อีกสองแห่ง แห่งแรกคือวัดเสวียนคง หรือวัดแขวน （悬空寺）วัดนี้เป็นศูนย์รวมศรัทธาของนิกายศาสนาพุทธ เต๋า และขงจื๊อ ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.491 ตรงกับสมัยราชวงศ์เหนือ หรือเป่ยเว่ยมีอายุเก่าแก่กว่า 1,500 ปี ตัววัดแขวนอยู่บนแผ่นผาสูงของยอดชุ่ยผิงของภูเขาเหิงซันอย่างน่าอัศจรรย์

และกิจกรรมสุดท้ายก่อนกลับกรุงปักกิ่งคือ การเยือนวัดหย่งอัน （永安寺）เป็นวัดพุทธ เริ่มสร้างในสมัยราชวงศ์จิน (ประมาณ ค.ศ.1115 - ค.ศ.1234) ต่อมาถูกไฟไหม้ และมีการสร้างบูรณะใหม่ในต้นราชวงศ์หยวน(ค.ศ. 1271-1368) ภายในวัดมีจิตรกรรมฝาผนังซึ่งเป็นผลงานขั้นเทพ วาดโดยจิตกรราชวงศ์หยวน ขนาดจิตกรกรรมฝาหนังสูง 3 เมตร ยาว 56.8 เมตร รวมพื้นที่ภาพ 170 ตารางเมตร ประกอบด้วยภาพวาดคน 882 คน ที่ดูราวมีชีวิตจริง อีกทั้งภาพวาดบนเพดาน ราว 275 ตารางเมตร