ไชน่าเดลี - สืบเนื่องจากการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการของนายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ซึ่งได้พบปะกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ณ อาคารมหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมื่อวันพุธ (20 ก.ย.) ที่ผ่านมา ทั้งสองได้หารือกันในประเด็นต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศ
ผู้นำจีนกล่าวว่าการเสริมสร้างความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างปักกิ่งกับสิงคโปร์และการมุ่งขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไปข้างหน้าเป็นเรื่องที่ดีต่อทั้งสองฝ่าย โดยการรักษาการสื่อสารระดับสูงเป็นวิถีทางที่ควรสานต่อจากผู้นำรุ่นก่อนและเป็นการบ่มเพาะสายสัมพันธ์ทวิภาคีอันใกล้ชิด
“การสร้างความไว้วางใจทางการเมืองระหว่างกันและการเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งและพัฒนาสายสัมพันธ์ทวิภาคีนั้นสอดคล้องกับผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศและประชาชนทั้งสองฝ่าย รวมถึงจะสร้างประโยชน์แก่ความมั่นคง สันติภาพ และความมั่งคั่งในระดับภูมิภาคและระดับโลก”
“ทั้งสองฝ่ายควรยึดมั่นการทำความเข้าใจ เคารพ และสนับสนุนอีกฝ่ายในประเด็นอันเกี่ยวพันกับผลประโยชน์หลักและปัญหาที่มีความกังวล โดยตั้งมั่นอยู่ในยุทธศาสตร์การพัฒนา ขยายความร่วมมือรอบด้าน และเพิ่มการแลกเปลี่ยนระดับพลเรือนเพื่อเชื่อมโยงประชาชนของทั้งสองชาติเข้าด้วยกัน”
“การก่อสร้างของแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) เป็นจุดรวมของความร่วมมือทวิภาคีในปัจจุบัน และหวังว่าแผนริเริ่มการเชื่อมต่อเชิงยุทธศาสตร์จีน-สิงคโปร์ (China-Singapore (Chongqing) Demonstration Initiative on Strategic Connectivity) จะประสบความสำเร็จด้วยดี”
แผนริเริ่มการเชื่อมต่อเชิงยุทธศาสตร์จีน-สิงคโปร์เป็นโครงการร่วมระหว่างสองประเทศ ซึ่งเริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนม.ค. 2559 มีเป้าหมายเชื่อมโยงจีนตะวันตกกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยผ่านเทศบาลนครฉงชิ่ง
ด้านนายกฯ ลี กล่าวว่าเขาเห็นพ้องกับสีในประเด็นความสัมพันธ์กับจีนของสิงคโปร์ พร้อมสำทับว่าสิงคโปร์ยึดมั่นนโยบายจีนเดียว (one-China policy) และคัดค้าน “การแยกตัวเป็นอิสระ” ของไต้หวัน และคาดหวังจะเห็นจีนที่มั่นคงและมั่งคั่งมีบทบาทในกิจการระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น
“ด้วยสถานการณ์ในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สิงคโปร์ต้องการสร้างความร่วมมืออันใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับจีน โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมต่อ และทรัพยากรมนุษย์”
“สิงคโปร์สนับสนุนแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง การจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (เอไอไอบี) และต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเหล่านั้นด้วย โดยสิงคโปร์จะช่วยกระตุ้นความร่วมมือระหว่างจีนกับประชาคมอาเซียนหลังจากขึ้นเป็นประธานหมุนเวียนในปีหน้า”
ทั้งนี้ ฮั่น ฟังหมิง รองผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศประจำสภาปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน (ซีพีพีซีซี) กล่าวว่าการเดินทางเยือนจีนของลีได้แสดงให้เห็นว่า “นโยบายจีน” ของสิงคโปร์มีบทบาทสำคัญต่อการปฏิรูปและการเปิดกว้างของจีนในหลายทศวรรษที่ผ่านมา