MGR ONLINR--กระทรวงต่างประเทศจีน จัดกิจกรรมแนะนำมณฑลเจียงซี “เผยเสน่ห์ มณฑลเจียงซี” เมื่อวันศุกร์(8 ก.ย.) โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ นาย หวัง อี้ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำมณฑลเจียงซี นายลู่ ซินเซ่อ และผู้ว่าการมณฑลเจียงซี นาย หลิว ฉี พร้อมด้วยบรรดาเอกอัครราชทูตและอัครทูตจากประเทศต่างๆประจำกรุงปักกิ่ง ได้เข้าร่วมงานฯ
ดินแดนแห่งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์การปฏิวัติจีนใหม่
รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศจีน หวัง อี้ กล่าวแนะนำมณฑลเจียงซี เป็นดินแดนที่รุ่มรวยด้วยวัฒนธรรม มีประวัติศาสตร์กว่า 1,000 ปี จากยุคราชวงศ์ซ่ง ราชวงศ์หยวน ทั้งศาสนาปรัชญาความเชื่อที่โดดเด่นของโลก ได้แก่ ลัทธิเซน เต๋า และกลุ่มนิกายพุทธ ได้ถือกำหนดและเจริญเติบโตในเจียงซี
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ และแหล่งวัฒนธรรม ศูนย์รวมภูมิปัญญา ทำให้เจียงซีเป็นเขตเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศ
หวัง อี้ กล่าวถึงเสน่ห์ความงดงามที่โดดเด่นของเจียงซี ได้แก่ เครื่องลายคราม เครื่องเคลือบดินเผาแห่งเมืองจิ่นเต๋อเจิ้น มีชื่อเสียงขจรไกลไปทั่วโลก เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์วัฒนธรรมจีน ทั้งเป็นงานหัตถกรรมที่สืบทอดมาแต่โบราณอันล้ำค่า
นอกจากนี้ มณฑลเจียงซียังเป็นเสมือนพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การปฏิวัติจีนใหม่ที่ไร้กำแพงตัวอาคาร มีเมืองขุนเขาจิ่งกังซาน เมืองหนันชาง เป็น “บ้านเกิด”และฐานเคลื่อนไหวการปฏิวัติจีนใหม่ของกองทัพแดงแห่งภายใต้การนำของพรรคอมมิวนิสต์จีน เมื่อ 90 ปีที่แล้ว
ที่ควรค่ากล่าวถึงอีกคือ การจัดตั้ง ชิโน โซเวียต รีพับลิค (ChineseSoviet Republic) ที่เมืองรุ่ยจิน ปี 1931 และมีการจัดตั้งคณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถือเป็นการจัดตั้งกลไกระหว่างประเทศครั้งแรกของผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์
การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว
เจียงซีมีภูมิประเทศธรรมชาติที่โดดเด่นไม่แพ้ใคร โดยมีแม่น้ำกั้นเจียงไหลผ่านทั่วทุกพื้นที่มณฑล ทะเลสาบปั๋วหยางซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่สุดของประเทศจีน เทือกเขาหลายแนว ป่าใหญ่ และระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ มณฑลเจียงซีจัดเป็น “เมืองสีเขียว” และการพัฒนาในปัจจุบันก็ได้ยึดถือการรักษาสภาพแวดล้อมระบบนิเวศเป็นหลัก
การเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีของมณฑล ขยายตัวที่ 9.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
เจียงซี มีวัฒนธรรมการเพาะปลูกที่เก่าแก่ จากการค้นพบซากโบราณคดีในอำเภอวั่นเหนียนระบุว่าเจียงซีเป็นแหล่งเพาะปลูกข้าวมาแต่ปลายหินเก่าหรือร่วมหมื่นปีที่แล้ว ปัจจุบันยังเป็นแหล่งเกษตรกรรม ทั้งได้พัฒนาผลิตภัณฑ์การเกษตรที่ทันสมัย เกษตรอินทรีย์ (organic)
เจียงซีเป็นแหล่งเพาะปลูกและส่งออกชามาตั้งแต่ยุคเส้นทางสายไหมทางทะเลสมัยโบราณ “มีถนนชาโบราณ” (Ancient Tea Road) ขนส่งชาจากเขาอู๋อี๋ในเจียงซีไปยังรัสเซียและที่อื่นๆทั่วโลก
ยุคพัฒนานวัตกรรม การวิจัยและพัฒนา
มณฑลเจียงมี ได้พัฒนานวัตกรรม แหล่งวิจัยและการพัฒนา (R&D) โดยความสำเร็จที่โดดเด่น อาทิ การวิจัยและพัฒนาเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ C919 ซึ่งเป็นจัมโบเจ็ทลำแรกของประเทศจีน บริษัทวิจัยการบินในเจียงซีมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเครื่องบินหลายรุ่น รวมทั้งเครื่องบินจัมโบเจ็ท C919
เจียงซียังเข้าร่วมหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง โดยมีเส้นทางรถไฟขนส่งสินค้าจากกั้นโจว แล่นผ่านเมืองต่างๆในเอเชียไปยังยุโรป และเครือข่ายระบบคมนาคมที่เชื่อมเจียงซีกับภูมิภาคต่างๆตามเส้นทางสายไหมทางทะเล
นอกจากนี้ มณฑลเจียงซี ยังเป็นสถานีจุดจอดของเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายเซี่ยงไฮ้-คุนหมิงและเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายเหอเฝย-ฝูโจว มีถนนไฮเวย์ระยะทางยาว 6,000 กิโลเมตร พาดผ่านภายในมณฑล
เจียงซียังเป็นแหล่งอุตสาหกรรมผลิตยาแผนจีนที่มีชื่อเสียง คือ หุบเขายาเจียงจง (Jiangzhong Medical Valley)
ปัจจุบันมีบริษัท 66 ราย จากกลุ่มบริษัทชั้นนำ 500 รายของโลก เข้ามาลงทุนในเจียงซี เจียงซียังได้ “ก้าวออกไป” ตามกระแสลมตะวันออกแห่ง หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ขณะเดียวกัน ก็ได้ “เชิญชวน” ต่างชาติเข้ามา ร่วมทุนร่วมพัฒนา ขยายวงมิตรนานาประเทศที่นับวันยิ่งมาก มณฑลเจียงซีกำลังผงาดเป็นเขตเศรษฐกิจที่เปิดกว้าง
ภาคท่องเที่ยว
ด้วยภูมิประเทศเทือกเขา ยอดเขาที่มีชื่อเสียง เช่น อู๋อี๋ซันเหนือที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ เขาหลงหู่ซัน เขาซันชิงซัน ลำน้ำกั้นเจียงที่ไหลผ่านทั่วทุกเขตในมณฑล ทะเลสาบปั๋วหยาง ที่เป็นแหล่งนิเวศวิทยาที่อุดมสมบูรณ์ ประวัติศาสตร์ฐานที่มั่นการต่อสู้ปฏิวัติของกองทัพแดง เครื่องลายครามจิ่นเต๋อเจิ้นซึ่งเป็นซิกเนเจอร์ของมณฑล ส่งให้เจียงซี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก