xs
xsm
sm
md
lg

มองจีนแหวกธารอุตสาหกรรมเก่า ทะยานฟ้าด้วยอุตสาหกรรมใหม่

เผยแพร่:   โดย: เกรียงไกร พรพิพัฒน์กุล

สวนกวางเป่าโถว (Baotou Deer Park) หนึ่งในโครงการที่บริษัทเอ็ม-กราซ ได้ตกลงร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นเมืองปาวตู เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของมองโกเลียใน เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อาคาร พัฒนาระบบนิเวศและปรับปรุงพื้นที่สีเขียวที่มีอยู่ในเมือง (ภาพซินหวา)
ไชน่าเดลี / MGR Online - หลังจากยืนตัวตรงขึ้นมาได้จากการก้มหน้าก้มตาทำอุตสาหกรรมแบบเก่า จีนได้เห็นแนวทางของการก้าวกระโดดไกลอย่างแท้จริงในศตวรรษนี้เอง ผ่านอุตสาหกรรมใหม่ที่จะนำพาชาติผ่านพ้นวงจรเศรษฐกิจชะลอตัวได้ โดยอุตสาหกรรมเหล่านั้น มีตั้งแต่เทคโนโลยีชีวภาพ, พลังงานสะอาด และการผลิตขั้นสูง

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมนี้ คาดว่าจะสร้างโอกาสการทำงาน ยกระดับทักษะแรงงานทั่วทุกภาคธุรกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

นาย จ้าว ชางเหวิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม แห่งศูนย์วิจัยพัฒนาฯ คณะกรรมาธิการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติ หรือ เอ็นดีอาร์ซี (NDRC) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่ให้คำปรึกษาทางด้านนโยบายของรัฐ กล่าวเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ว่า เทคโนโลยีชีวภาพ, การผลิตขั้นสูง, พลังงานสะอาด และสารสนเทศอุตสาหกรรมดิจิทัล เป็นโครงการอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของชาติ ที่คาดว่า ภายในปี 2563 จะสร้างงานในอุตสาหกรรมเหล่านี้กว่า 1 ล้านตำแหน่งงาน ตามแผนระยะยาว 5 ปี ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2559 - 2563) มาถึงตอนนี้ บอกได้ว่า ไม่ใช่เป้าหมายที่ยากบรรลุ และมั่นใจว่าจะบรรลุเกินเป้าหมายแน่นอน

ตามแผนพัฒนา 5 ปีฉบับที่ 13 วางเป้าหมายไว้อีกว่า ในปี 2563 มูลค่าการผลิตที่เพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ใหม่ ๆ คาดว่าจะเป็นสัดส่วนร้อยละ 15 ของจีดีพี ทั้งหมดของประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนร้อยละ 8 ในปีที่แล้ว

ในช่วงเวลาเดียวกัน จีนต้องการสร้างเสาหลักอุตสาหกรรมใหม่ 5 แห่ง เพื่อสร้างผลผลิต 10 ล้านล้านหยวน (1.47 ล้านล้านดอลลาร์) ซึ่งจะรวมถึงเทคโนโลยีสารสนเทศ, เทคโนโลยีชีวภาพ, อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ

ข้อมูลทางการ แสดงผลกำไรจากอุตสาหกรรมใหม่ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2560 พุ่งขึ้น 13.3 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.8 เปอร์เซนต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

เฟย จื่อหรง รองเลขาธิการของคณะกรรมาธิการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติ กล่าวว่า ในขณะที่ความคืบหน้าได้รับการดำเนินไป และการกำกับดูแลมาตรการสนับสนุนจะต้องมีการปรับปรุง การลงทุนและการคุ้มครองสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยขยายสาขาอุตสาหกรรมใหม่ ๆ รัฐบาลจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาความไม่สมดุลในการพัฒนาภูมิภาคด้วย

"อุตสาหกรรมที่มีเทคโนโลยีสูงจำนวนมากต้องการลงทุนและสร้างโรงงานในภาคตะวันออกของจีน จึงกลายเป็นความกังวลว่าจะนำไปสู่การเจริญเติบโตไม่สมดุล" เฟยกล่าว

ตัวอย่างหนึ่งของการกระจายกิจการในอุตสาหกรรมใหม่ ที่ปรากฏในสื่อล่าสุด เช่น Inner Mongolia M-Grass Ecology & Environment (Group) เรียกสั้นๆ ว่า เอ็ม-กราซ (M-Grass) กิจการซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าบุกเบิกธุรกิจในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ทางเหนือของจีน มีความเชี่ยวชาญโครงการด้านระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อม มีชื่อเสียงมากและเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศจีนเพียงรายเดียว ที่เชี่ยวชาญด้านการฟื้นฟูระบบนิเวศน์ เทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์ และการเพาะปลูกหญ้าด้วยวิทยาการใหม่

นอกจากขยายโครงการพัฒนาผืนดินให้กับหลายมณฑลของจีน ตอนนี้ เอ็ม-กราซ (M-Grass) เข้าไปทำโครงการพัฒนาพื้นที่เกษตรต่างๆ ให้กับภูมิภาคทะเลทราย เช่น นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย

เจิ้ง หนาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลของ เอ็ม-กราซ กล่าวว่า บริษัทยังมองหาโอกาสเข้าไปพัฒนาพื้นที่เกษตรให้กับประเทศสิงคโปร์และรัสเซีย

เอ็ม-กราซ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2544 ที่เมืองฮูฮอต เมืองเอกของเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ธุรกิจหลักสร้างชื่อเสียงของบริษัท คือ "วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมทางนิเวศวิทยา" ด้วยจำนวนพนักงานกว่า 1,500 คน ในปีที่แล้ว กลุ่มบริษัท มีรายได้รวม 422 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 61.78% เมื่อเทียบกับปี 2015 และในช่วงไตรมาสแรกของปี 2560 นี้ รายได้อยู่ที่ 45 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้นร้อยละ 160 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ในปีพ.ศ. 2559 บริษัทได้ตกลงร่วมมือกันกับรัฐบาลท้องถิ่นเมืองเป่าโถว เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของมองโกเลียใน เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อาคาร พัฒนาระบบนิเวศและปรับปรุงพื้นที่สีเขียวที่มีอยู่ในเมือง

นี่เป็นธุรกิจหลักที่ทำให้ เอ็ม-กราซ ประสบความสำเร็จรุ่งเรืองเป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการทะเลทรายเพราะ เอ็ม-กราซเช่นกัน

นายยู่ว์ กวงจุน ผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐศาสตร์ของสถาบันสังคมศาสตร์มองโกเลียใน กล่าวว่า "จีนมีทิวสนแนวหญ้าที่อุดมสมบูรณ์ตามชายแดน สิ่งเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการควบคุมแนวทะเลทรายนี้"

ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ทีมงานเอ็ม-กราซ ได้เดินทางทั่วภูมิภาคต่างๆ เพื่อรวบรวมเมล็ดพันธุ์หญ้าต่างๆ กว่า 8,000 เมล็ดและตัวอย่างดินมากกว่า 11,000 ตัวอย่าง

หวัง จ้าวหมิง ประธานกลุ่มบริษัทฯ กล่าวว่า "ผมเชื่อเสมอว่า สิ่งแวดล้อมทรงภูมิปัญญา ฉลาดพอที่จะช่วยเราได้ พืชพื้นเมืองเป็นทางออกที่ดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับการบำรงฟื้นฟูระบบนิเวศ"

"เราจะยังคงทำวิจัยเกี่ยวกับหญ้าประเภทต่างๆ" เขากล่าวเสริม "พืชเหล่านี้ เป็นบทบาทสำคัญในการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ"

เมื่อปลายปีที่แล้ว เอ็ม-กราซ ได้สร้างแพลตฟอร์มการค้นหาซึ่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับหญ้า, ดิน, น้ำ, อุตุนิยมวิทยา, ปศุสัตว์และจุลินทรีย์

"ในเวลาไม่กี่วินาที คุณสามารถหาข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการได้เพียงใส่ตัวเลขลองจิจูดและละติจูด และเรายังคงปรับปรุงและปรับปรุงแพลตฟอร์มทั่วทั้งภูมิภาคนี้" นายเกาหวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มบริษัทฯ กล่าว

เกา ซื่อหลิน ผู้อำนวยการสำนักงานป่าไม้ ประจำมองโกเลียใน กล่าวว่า โครงการวิจัยและพัฒนาฯ รวมทั้งการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง มีความสำคัญต่อเอ็ม-กราซ โดยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2543 รัฐบาลได้ลงทุนโครงการทางนิเวศวิทยาในมองโกเลียใน จำนวน 11,670 ล้านหยวน

การเป็นหุ้นส่วนภาครัฐและเอกชน (PPP) เกื้อกูลกันในการระดมทุนสำหรับโครงการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เมื่อปีที่แล้ว เอ็ม-กราซ ยังได้เซ็นสัญญาร่วมโครงการกับรัฐบาลเมืองฮูฮอต มูลค่าจำนวน 20,000 ล้านหยวน ในโครงการบูรณะระบบนิเวศวิทยาที่สำคัญ ซึ่งเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 92 ของรายได้ของกลุ่มฯ ในปีที่แล้ว

หลี่ จื่อเหิง หัวหน้าสาขาพรรคคอมมิวนิสต์ ประจำมองโกเลียใน กล่าว เอ็ม-กราซ มีความสำคัญสำหรับภูมิภาคนี้ ตลาดธุรกิจการฟื้นฟูระบบนิเวศน์วิทยามีขนาดใหญ่มาก และหวังว่า บริษัทจะรักษาศักยภาพการแข่งขันด้วยการให้บริการที่ดีเยี่ยม


กำลังโหลดความคิดเห็น