เซาท์ไชน่า มอร์นิงโพสต์ / MGR Online - หลิว เสี่ยวปัว นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน ผู้ต่อต้านรัฐบาลจีน ซึ่งกำลังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ และเคยได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพประจำปี 2553 เสียชีวิตด้วยภาวะอวัยวะภายในล้มเหลวในขณะที่มีอายุ 61 ปี ในโรงพยาบาลไชน่าเมดิคัล เมืองเสิ่นหยัง มณฑลเหลียวหนิง ในภาคเหนือของจีน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม
สำนักงานยุติธรรมเสิ่นหยัง แถลงเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมว่า หลิว เสี่ยวปัว ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยไชน่าเมดิคัล เมื่อเดือนมิถุนายน หลังตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งตับปลายเดือนพฤษภาคม จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่อเย็นวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม เวลา 17.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในท่ามกลางครอบครัวอันมี นางหลิวเซี่ย ภรรยา และหลิว เสี่ยวฉวง กับหลิว เสี่ยวซวน พี่และน้องของเขา
ด้านเพื่อนสนิทของหลิว กล่าวว่า พวกเขาไม่ได้สิทธิเยี่ยมหลิว ระหว่างการรักษาของเขา โดยหลิวและครอบครัวถูกกักบริเวณเฝ้าระวังโดยหน่วยงานความมั่นคงของรัฐ
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ข่าวคราวคืบหน้าระหว่างการรักษาตัวและอาการป่วยของหลิวนั้น ไม่ได้เผยต่อสาธารณะจนกระทั่งปลายเดือนมิถุนายน ขณะที่นางหลิว เซี่ย ภรรยาของหลิว และเพื่อนๆ พร้อมกับสมาชิกประชาคมระหว่างประเทศได้พยายามขอร้องรัฐบาลจีนหลายครั้ง เพื่ออนุญาตให้หลิวเดินทางไปต่างประเทศเพื่อรับการรักษาพยาบาล
เมื่อวันที่ 10 กรกฏาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล เรียกร้องให้ปักกิ่งแสดงน้ำใจ อนุญาตให้ หลิว เสี่ยวปัว วัย 61 ปี นักโทษการเมืองที่มีชื่อเสียงของจีน และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 2553 ออกมารับการรักษาโรคมะเร็งตับระยะสุดท้ายในต่างประเทศ เพื่อเหตุผลทางด้านมนุษยธรรม แต่ที่ผ่านมาปักกิ่งอ้างว่า ป่วยจนเกินกว่าจะเดินทางได้
ข่าวการเสียชีวิตของนักสู้ประชาธิปไตยจีนสร้างเสียงประณาม และความเศร้าโศกไปทั่วถึงสิ่งที่เขาได้รับจากปักกิ่ง การแสดงความเห็นคัดค้านอย่างสันติของหลิวต่อรัฐบาลปักกิ่งทำให้ชายผู้นี้ต้องอยู่ในเรือนจำนานเกือบ 1 ใน 4 ของช่วงชีวิตด้วยข้อกล่าวหาจากปักกิ่ง “ต่อต้านการปฎิวัติ
หลิว เสี่ยวปัว ถูกจำคุกตั้งแต่ปี 2552 ในคดียุยงปลุกปั่นเพื่อบ่อนทำลายอำนาจรัฐ หลังจากได้เสนอกฎบัตร 08 (Charter 08) เรียกร้องการปฎิรูปทางการเมืองในจีน และถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 11 ปี
ก่อนหน้านี้ในฐานะเป็น 1 ใน 2 ของผู้นำกลุ่มนักศึกษาประท้วงกลางจตุรัสเทียนอันเหมินว่า ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นในวันที่ 4 มิ.ย 2532 ชาย 2 คนยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มนักศึกษาจีนจำนวนไม่กี่ร้อยคนกลางจตุรัสเทียนอันเหมิน ในขณะที่ถนนสายอื่นๆในบริเวณใกล้เคียงนั้นเต็มไปด้วยเลือดที่ถูกปักกิ่งเข้าปราบปรามอย่างป่าเถื่อน และกองกำลังกำลังเข้าปิดล้อมผู้ประท้วงกลุ่มสุดท้าย นั่นคือ กลุ่มของหลิว เสี่ยวปัวและกลุ่มนักศึกษาปัญญาชนอีกหยิบมือที่ต้องการเรียกร้องสันติภาพ โดยก่อนหน้าที่ปักกิ่งจะส่งกองทหารเข้ากวาดล้าง หลิวได้ทำการอดอาหารประท้วงอย่างสันติ
“หลิว เสี่ยวปัวเป็นอมตะ ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือไม่” หู ผิง เพื่อนของหลิวที่รู้จักกันมาเกือบ 30 ปี กล่าวเมื่อได้รับทราบข่าวการเสียชีวิตและกล่าวต่อว่า การเสียชีวิตของหลิวสะท้อนให้เห็นถึงภาพชีวิตของนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยจีนภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เป็นอย่างดี “ผมคิดว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในจีนขณะนี้นั้นเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลิวนั้นแสดงให้พวกเราเห็นอย่างแจ่มชัดว่า สถานการณ์ที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร และมันได้เหนือกว่าที่พวกเราคาดไปมากเพียงใด”
ทั้งนี้ เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานว่า คำสุดท้ายที่หลิว เอ่ยกับหลิวเซี่ย ภรรยาของเขาคือ "ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าต่อไป"
