ไชน่าเดลี รายงาน (21 มิ.ย.) ว่าเจ้าของแจกันกระเบื้องจีน จากเมืองดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ นำแจกันโบราณเข้าประมูล ที่งานประมูลสินค้าเชฟพาร์ด ในดูโรว์ ทางใต้ของกรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ โดยคาดว่าจะประมูลได้ในราคา 1,200 ยูโร (ประมาณ 45,416 บาท) แต่ปรากฏว่า เมื่อปิดราคาประมูล กลับขายได้ในราคา 740,000 ยูโร (ประมาณ 28,006,780 บาท) ทำลายสถิติการประมูลศิลปวัตถุ ในประเทศไอร์แลนด์
รายงานข่าวกล่าวว่า แจกันดังกล่าว เป็นแจกันที่สร้างในยุคราชวงศ์ชิง (ค.ศ.1644-1911) ซึ่งชายผู้นำเข้าประมูลได้ประเมินราคาไว้ที่ระหว่าง 800 - 1,200 ยูโร แต่ทันที่ที่นำเข้าประมูล มีผู้แย่งประมูลเสนอราคากันมากมายนับสิบราย และที่สุดผู้เสนอราคาสูงสุดเป็นผู้ประมูลซื้อจากกรุงปารีสรายหนึ่ง หลังจากมีเปิดประมูลได้ 7 นาที
แจกันใบนี้ คาดว่าทำขึ้นในช่วงรัชสมัยฮ่องเต้เฉียนหลง ระหว่างปี ค.ศ.1711 -1799 มีความสูง 23 เซนติเมตร กว้าง 18 เซนติเมตร วาดลายดอกไม้สีน้ำเงินซึ่งเป็นลักษณะศิลปะของยุคฮ่องเต้เฉียนหลง
ไม่มีข้อมูลว่าแจกันใบนี้มาอยู่ในไอร์แลนด์ได้อย่างไร ด้าน RTE สถานีวิทยุไอร์แลนด์ รายงานว่า ที่มานั้นอาจจะเป็นจากการกำนัลให้กับชาวต่างชาติคนหนึ่งที่ไปเยือนจีนในสมัยนั้น
ฟิลลิป เชฟพาร์ด จากห้องประมูล กล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า ราคาประมูลที่สูงลิ่วนี้ สะท้อนความนิยมของตลาดศิลปะจีน และบรรดาเครื่องลายครามโบราณจากจีนเหล่านี้ มีการนำเข้ามามากในสมัยศตวรรษที่ 19 ในช่วงที่อังกฤษปกครองประเทศไอร์แลนด์ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว ไชน่าเดลี ยังได้รายงานว่า แจกันดอกกุหลายในยุคราชวงศ์ชิง ถูกประมูลซื้อไปในราคา 13 ล้านปอนด์ (ราว 558 ล้านบาท) จากห้องประมูลคริสตี้ ในกรุงลอนดอน
ก่อนหน้านี้ เมื่อปีค.ศ. 2012 ห้องประมูลเชฟพาร์ด ได้เสนอราคาประมูลหยกแกะสลักขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟ ระหว่าง 4,000 - 6,000 ยูโร แต่ที่สุดปิดราคาขายได้ที่ 630,000 ยูโร โดยข้อมูลระบุว่า หยกชิ้นดังกล่าวน่าจะใช้งานสำหรับประทับเครื่องหมายราชการแผ่นดินจีน