ไชน่าเดลี อ้าง (20 พ.ค.) รายงานของ Rhodium Group and the National Committee on U.S.-China Relations (NCUSCR) ว่ามูลค่าการลงทุนโดยตรงระหว่างประเทศ จีน และสหรฐฯ มีมูลค่าเกิน 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี พ.ศ. 2559 มากที่สุดในประวัติศาสตร์
รายงานของ Rhodium Group and the National Committee on U.S.-China Relations (NCUSCR)ระบุว่า การลงทุนทางตรง 2 ทาง (two - way direct foreign investment) ปีที่แล้วทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นผลจากการให้ความสำคัญในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคี
สิ่งที่เคยเป็นความสัมพันธ์ทางเดียว การลงทุนทางเดียวจากสหรัฐฯ สู่จีน ปัจจุบันนี้ ได้เป็นการลงทุนแบบสองทาง มีมูลค่าการลงทุนไป-มา นับหมื่นล้านเหรียญในแต่ละปี
เมื่อเศรษฐกิจจีนเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง การลงทุนของจีนในสหรัฐฯ ขยายตัวเป็นประวัติการณ์ และในปี พ.ศ.2559 บริษัทจีน ได้ลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา ถึง 46,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มเป็นสามเท่า จากปีก่อนหน้า (2558) และเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว
นอกเหนือจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของการลงทุนโดยตรงสองทางแล้ว นักลงทุนและกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ยังได้ขยายตัวจากอุตสาหกรรมพลังงานและอสังหาริมทรัพย์แบบดั้งเดิม ไปจนถึงอุตสาหกรรมบริการ บริโภค และอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ สะท้อนถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นของจีน ในการลงทุนเพื่อตอบสนองการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น
ตามรายงานพบว่า เมื่อก่อนปี พ.ศ.2556 จำนวนการลงทุนที่มหาศาล จะเน้นไปด้านพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล แต่ล่าสุดปีพ.ศ. 2559 การลงทุนเน้นไปที่ภาคบริการ และการผลิตขั้นสูง ในสัดส่วนถึง 79%
ในปีที่แล้ว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และที่พักอาศัย, เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, บันเทิง, ผลิตภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค และบริการทางการเงิน เป็นอุตสาหกรรมหลักสำหรับการลงทุนของจีนในสหรัฐอเมริกา
รายงานฯ คาดการณ์ว่า การลงทุนของจีนในสหรัฐ คงจะลดลงในปี พ.ศ.2560 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่กระแสการเคลื่อนทุนแบบสองทางยังคงมีส่วนสำคัญของการปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐฯ ต่อไปในอนาคต
สตีเฟน เอ.ออร์ลินส์ ประธาน NCUSCR กล่าวว่า "การลงทุนแบบทวิภาคีเป็นสะพานทางวัฒนธรรมและทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เพราะทำให้การค้าเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆ"