ผู้นำจีนแถลงการประชุมสุดยอดหรือซัมมิต “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ” (Belt and Road Forum for International Cooperation) ประสบความสำเร็จ พร้อมประกาศจัดซัมมิต “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ”ครั้งที่สองในปีหน้า
ซัมมิต“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ” ครั้งแรก จัดขึ้น ณ กรุงปักกิ่ง เป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 14-15 พ.ค. โดยมีผู้นำประเทศ ผู้นำรัฐบาล จาก 29 ประเทศ รวมทั้งกลุ่มผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ ผู้นำภาคธุรกิจ เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส และนักวิชาการ เข้าร่วมการประชุมฯ
ในวันจันทร์ (15 พ.ค.) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเป็นประธานการประชุมโต๊ะกลมกับผู้นำที่เข้าร่วมซัมมิตฯ ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติไหวโหรว กรุงปักกิ่ง เพื่อร่างพิมพ์เขียวสำหรับผลักดันความริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง
หลังเสร็จสิ้นการประชุม ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้แถลงสรุปผลการประชุมโต๊ะกลมฯ ต่อที่ประชุมข่าว ว่าร่างพิมพ์เขียวสำหรับผลักดันความริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ได้รับการตอบรับอย่างดีจากประเทศต่างๆมากกว่า 100 ประเทศ และในระหว่างการประชุมสุดยอดยังได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับบางประเทศ โดย ณ ขณะนี้ จีนได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ 68 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ
ในพิธีการปิดฟอรัม ความริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง มีการรับรองรายการผลสรุปหลักของฟอรัม 76 รายการ ซึ่งประกอบด้วยโครงการที่เป็นรูปธรรม มากกว่า 270 โครงการ โดยครอบคลุมพื้นที่สำคัญ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านนโยบาย โครงสร้างพื้นฐาน การค้า การเงิน และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน
ผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมโต๊ะกลมในวันจันทร์ ได้ออกแถลงการณ์ร่วม ซึ่งระบุ “คำสัญญาสร้างระบบเศรษฐกิจที่เปิดกว้าง สร้างเขตการค้าที่เปิดกว้างและเปิดเสรี ต่อต้านลัทธิคุ้มครองการค้าในรูปแบบต่างๆ”
ในซัมมิต กลุ่มผู้นำยังได้เห็นพ้องการลำดับความสำคัญในการดำเนินแผนการต่างๆ ได้แก่ การปรึกษาหารือด้านนโยบาย การผลักดันโครงข่ายเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแก่สาธารณะ ตลอดจนการพัฒนาที่ยั่งยืน
“จีนต้อนรับมิตรทั่วโลกที่ต้องการเข้าร่วมความร่วมมือหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง และยอมรับเป้าหมายขอ งทุกฝ่าย” ประธานาธิบดี สี กล่าว
ระหว่างแถลงในพิธีปิดการประชุมซัมมิต ประธานาธิบดีสี กล่าวว่า “การสร้างชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ประชาชน จะช่วยผลักดันประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติก้าวเดินไปข้างหน้า”
การพัฒนาความร่วมมือ หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง จะทำให้ประชาชนบนเส้นทางความร่วมมือสายนี้ ได้รับอานิสงส์จากการพัฒนาร่วมและแบ่งปันผลประโยชน์ในความร่วมมือที่สมประโยชน์ทุกฝ่าย
สีว์ ฮ่าวเหลียง รองเลขาธิการสหประชาชาติ และผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก สังกัด โครงการพัฒนาของสหประชาชาติ (United Nations Development Programme) กล่าวว่าความร่วมมือหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง “จะสร้างรูปแบบความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งศตวรรษที่ 21”
จีนประกาศความช่วยเหลือฟรีอีก 60,000 ล้านหยวน ช่วยการพัฒนาที่ยั่งยืน
วันเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์จีนได้แถลงข้อเสนอความช่วยเหลือทางการเงิน 60,000 ล้านหยวน หรือราว 300,000 ล้านบาท ในรูปแบบความช่วยเหลือฟรีและเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย สำหรับช่วยประเทศต่างๆที่เข้าร่วมความริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมกับบรรลุ “วาระของสหประชาชาติปี 2030 ว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน”
ความช่วยเหลือ 60,000 ล้านหยวน ซึ่งจีนพร้อมที่จะจัดสรรออกมาภายใน 3 ปีนี้ จะช่วยกลุ่มประเทศและเขตที่เข้าร่วมความริเริ่ม ได้พัฒนาการค้า โครงสร้างพื้นฐาน ความร่วมมือด้านการเงิน และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม
ทั้งนี้ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เสนอความริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ในปี 2013 อันประกอบด้วย ความร่วมมือเขตเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม และเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 มีเป้าหมายสร้างโครงข่ายการค้าและโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเชื่อมโยงเอเชียเข้ากับยุโรปและแอฟริกา ตามแนวเส้นทางสายไหมยุคโบราณ