dailygalaxy.com รายงาน (14 พ.ค.) ว่าอ้างคำแถลงของห้องปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ แห่งแรกของจีน ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่าจะเป็นศูนย์การรวบรวมผู้มีความสามารถด้านการวิจัยชั้นนำของประเทศเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้
การเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จีน กำลังเป็นที่จับตาของเหล่าชุมชนวิทยาการ โดยเมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว รัฐบาลสหรัฐฯ สมัยประธานาธิบดี บารัค โอบามา เปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ การค้นคว้าวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งพบว่าตำแหน่งของสหรัฐฯ ไม่ใช่เป็นผู้นำโลกในเทคโนโลยีนี้แล้ว และแน่นอนประเทศที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคือจีน
แอนดรูว์ อึง ผู้ร่วมก่อตั้ง Coursera และ Google Brain และคิดค้นระบบเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Deep Learning” และปัจจุบันทำงานค้นคว้าวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ ให้กับไป่ตู้ กล่าวว่า "ผมนึกยากทุกครั้ง ว่าจะมีอุตสาหกรรมอะไรที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยปัญญาประดิษฐ์"
"จีนตระหนักถึงโลกที่ใช้ภาษาอังกฤษ และได้ค้นคว้าวิจัยเทคโนโลยีช่วยแปล และจดจำเสียงพูด แต่เมื่อกูเกิล กับไมโครซอฟต์ พัฒนาเทคโนโลยีนี้เช่นกัน กลับพัฒนาได้เร็วเนื่องจากเป็นระบบเปิดที่เผยแพร่
ห้องปฏิบัติการนี้ ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยตั้งอยู่ที่ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (China University of Science and Technology /USTC) มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบประมวลผลที่เลียนแบบสมองมนุษย์
มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เป็นที่โด่งดังจากบทบาทการพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารควอนตัม เป็นเจ้าบ้านสำหรับความร่วมมือค้นคว้าวิจัยของสถาบันชั้นนำต่างๆ ทั่วจีน อาทิ มหาวิทยาลัยฟูตั้น, Shenyang Institute of Automation of the Chinese Academy of Science เช่นเดียวกับ ไปตู้ เสิร์ชเอนจิ้งใหญ่ที่สุดของจีน
ว่าน หลี่จุน ประธาน ยูเอสทีซี และประธานห้องปฏิบัติการวิจัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ กล่าวว่า ภารกิจของห้องปฏิบัติการนี้ จะทำวิจัยเพื่อศึกษาระบบการเรียนรู้อัจฉริยะต่างๆ นอกจากนี้ ยังจะมุ่งเน้นการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ