xs
xsm
sm
md
lg

สี จิ้นผิง เปิดประชุม "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" เตรียมทุ่มเงินมหาศาลดึงโลกร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง เพื่อความร่วมมือระดับนานาชาติ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติจีน กรุงปักกิ่ง วันที่ 14 พ.ค. 2560 (ภาพ รอยเตอร์ส)
MGR Online/ เอเจนซี - ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุมหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Forum) เพื่อความร่วมมือระดับนานาชาติ ซึ่งเปิดม่านในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ (14 พ.ค.) ณ นครหลวงปักกิ่งของจีน

ผู้นำประเทศต่างๆ อย่างน้อย 29 แห่ง อาทิ ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี รวมถึงนายอังตอนีอู กูแตรึช เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ตบเท้าเข้าร่วมการประชุมฯ ซึ่งนับเป็นเวทีระดับสูงสุดของโครงการริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ที่สี จิ้นผิง นำเสนอครั้งแรกในปี 2556

ประธานาธิบดีสีเริ่มต้นสุนทรพจน์ด้วยการทบทวนถึงประวัติศาสตร์ของเส้นทางสายไหม (Silk Road) อันเป็นเส้นทางการค้าสายสำคัญในยุคโบราณ ระบุว่าเส้นทางสายไหมได้หลอมรวมจิตวิญญาณแห่งสันติภาพ ความร่วมมือ การเปิดกว้าง การเรียนรู้ซึ่งกันและกัน รวมถึงผลประโยชน์ร่วมเข้าไว้ด้วยกัน

สีกล่าวว่า ในช่วงระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา มีการลงลึกเชิงนโยบาย ขยายการเชื่อมต่อโครงสร้างสาธารณูปโภค เพิ่มเครือข่ายการค้าและการเงิน ขณะโครงการริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง กำลังกลายเป็นความจริงและผลิดอกออกผลอันงดงาม

องค์กรระดับนานาชาติและประเทศต่างๆ กว่า 100 แห่งร่วมสนับสนุนและมีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการริเริ่มฯ ดังที่จีนได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ 40 ประเทศ และดำเนินกรอบความร่วมมือด้านกำลังการผลิต (production capacity) กับอีกกว่า 30 ประเทศตลอดหลายปีที่ผ่านมา

สำหรับเครือข่ายทางการเงิน จีนก็เข้าไปมีส่วนในการก่อตั้งความร่วมมือทางการเงินกับองค์กรและประเทศที่เกี่ยวพันกับโครงการริเริ่มฯ อาทิ ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (เอไอไอบี) ที่จัดหาเงินกู้กว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์แก่ 9 โครงการในกลุ่มประเทศที่เข้าร่วมโครงการริเริ่มฯ หรือกองทุนเส้นทางสายไหม (Silk Road Fund) ที่ดำเนินการลงทุนแล้วกว่า 4 พันล้านดอลลาร์

ผู้นำจีนกล่าวย้ำถึงองค์ประกอบหลักที่อยู่เบื้องหลังการสร้างหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง และเผยคำมั่นว่าจะทำให้มันเป็นถนนแห่งสันติภาพ ความมั่งคั่งร่ำรวย การเปิดกว้าง และนวัตกรรมใหม่ๆ ตลอดจนเป็นถนนที่เชื่อมโยงอารยธรรมอันแตกต่าง

“เราควรค้ำจุนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรูปแบบใหม่ที่เน้นความร่วมมือเพื่อสมประโยชน์ (win-win cooperation) และเร่งเดินหน้าความเป็นหุ้นส่วนคู่เจรจาโดยปราศจากการเผชิญหน้า”

“การค้าคือกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเติบโต” สีกล่าว “ประเทศต่างๆ ควรส่งเสริมระบอบการค้าแบบพหุภาคี การสร้างเขตการค้าเสรี และการอำนวยความสะดวกแก่การค้าและการลงทุน”

ทั้งนี้ สีระบุว่า จีนจะเพิ่มแรงสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการริเริ่มฯ ด้วยเม็ดเงิน 100,000 ล้านหยวน (ราว 14,500 ล้านดอลลาร์) สู่กองทุนเส้นทางสายไหม ส่วนธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศจีน (China Development Bank) และธนาคารเพื่อการนำเข้า-ส่งออกแห่งประเทศจีน (Export-Import Bank of China) จะจัดตั้งแผนการให้กู้ยืมพิเศษ มูลค่า 250,000 ล้านหยวน (ราว 36,200 ล้านดอลลาร์) และ 130,000 ล้านหยวน (ราว 18,800 ล้านดอลลาร์) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านโครงสร้างสาธารณูปโภค กำลังการผลิตทางอุตสาหกรรม และการเงิน

นอกจากนั้นจีนจะให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านอาหาร มูลค่า 2,000 ล้านหยวน (ราว 290 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) แก่ประเทศกำลังพัฒนาที่ตั้งอยู่ตามหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง และอีก 1,000 ล้านดอลลาร์แก่กองทุนช่วยเหลือความร่วมมือแบบใต้-ใต้ (Assistance Fund for South-South Cooperation)

สีเสริมว่า จีนจะลงนามข้อตกลงทางธุรกิจและความร่วมมือทางการค้ากับประเทศต่างๆ กว่า 30 แห่ง และเริ่มการหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีกับกลุ่มประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะมีการจัดงานมหกรรมการนำเข้าระดับนานาชาติในประเทศจีน (China International Import Expo) ตั้งแต่ปี 2561 อีกด้วย

บรรยากาศภายในพิธีเปิดการประชุมฯ ขณะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์ (ภาพ รอยเตอร์ส)
ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมฯ (ภาพ รอยเตอร์ส)
ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมฯ (ภาพ รอยเตอร์ส)
นายอังตอนีอู กูแตรึช เลขาธิการสหประชาชาติ ร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเปิดการประชุมฯ (ภาพ รอยเตอร์ส)

กำลังโหลดความคิดเห็น