ไชน่าพลัส สื่อจีน (21 เม.ย. 60) - ประเทศจีนกำลังถูกจับตามองจากทั่วโลกในฐานะตลาดรถยนต์ไฟฟ้ารายสำคัญที่สุดของโลก ทั้งด้านการค้า การวิจัย พัฒนาและการผลิต
ข้อสรุปข้างต้นถูกพูดถึงโดยสำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนัก หลังการประกาศจากบริษัทรถยนต์ระดับโลกหลายค่าย ถึงความสนใจที่จะเปิดตลาดและลงทุนในจีน ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อวานนี้ (20 เม.ย.60) “โฟล์คสวาเก้น” ค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติเยอรมัน ได้เปิดเผยแผนการเติบโตในจีน โดยเนื้อหาในแผนนี้ ได้ระบุการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2022 ยอดขายส่วนใหญ่ของ โฟล์คสวาเก้น ในประเทศจีน จะมาจากรถยนต์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ไฮบริดผ่านการเป็นพันธมิตรกับบริษัทผู้จัดจำหน่ายในจีน รวมถึง “ตีตี (Didi)” ผู้ให้บริการแอพพลิเคชันเรียกรถแท็กซี่และรถเช่ารายใหญ่ของจีน
ก่อนหน้านี้ ในเดือนเมษายน “ฟอร์ด” ค่ายรถยนต์ระดับโลกสัญชาติอเมริกา เปิดเผยแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในจีนเช่นกัน ซึ่งทางฟอร์ด จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในจีนอย่างเร็วที่สุดภายในปีหน้า โดยร่วมมือกับ ฉงชิ่งฉางอัน ออโต้โมบาย ค่ายรถยนต์จีน “ฉางอัน (Changan)”
โดย “ฟอร์ด” และ “ฉางอัน” ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารวมถึงเครื่องยนต์ไฮบริด ทะลุ 70 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท ในประเทศจีน
ล่าสุด “วอลโว่” ค่ายรถยนต์สัญชาติสวีเดน ที่ปัจจุบันถูกถือหุ้นใหญ่โดย “จี๋ลี่ (Geely)” ค่ายรถยนต์จีนรายใหญ่ กลายมาเป็นค่ายรถยนต์รายล่าสุดที่ก้าวเข้ามาสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่า ภายในปี 2019 วอลโว่ จะเปิดตัวและวางจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท โดยผลิตที่เซี่ยงไฮ้
นอกจากนี้ มีการรายงานว่า ในปี 2017 ประเทศจีนกลายมาเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ที่สุดของโลก แทนที่สหรัฐอเมริกา เจ้าตลาดเดิม
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความพยายามของรัฐบาลจีนในการผลักดัน เพิ่มจำนวนยานหานะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสู่ท้องถนนในเมืองจีน มากขึ้นสิบเท่าภายใน 2-3 ปีต่อจากนี้