ท่ามกลางกระแสแท็กซี่ไทย ที่มีเรื่องราวให้ติดตามไม่เว้นแต่ละวัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นข่าวเชิงลบมากกว่าเชิงบวก ในฐานะที่่ผู้เขียนอาศัยอยู่แดนมังกรมามากกว่าครึ่งทศวรรษ ได้เห็นการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงมาพอสมควรของแดนมังกรแห่งนี้ ทำให้มานั่งทบทวนว่า เราเจอเรื่องราวแท็กซี่ในจีน เหมือนที่เมืองไทยบ้างหรือไม่ แต่เรื่องปฏิเสธผู้โดยสาร อันนี้บอกได้เลยว่า "น้อยมาก"
ประสบการณ์ส่วนใหญ่จะเจอแท็กซี่แนะนำก่อนเลยว่า "ไปรถไฟฟ้าใต้ดินสะดวกกว่านะน้อง เพราะตอนนี้รถติดนะ ถ้าอยากไป เดี๋ยวเฮียไปส่งรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้ที่สุดละกัน " หรือบางครั้ง พี่แท็กซี่จะบอกว่า "ไกลไปอะน้อง พี่กำลังจะกลับบ้านไปกินข้าว อยู่คนละทางกับทางที่พี่จะกลับเลย" อันนี้มีเหตุผล รับได้ แต่ปฏิเสธแบบไร้เหตุผล ก็พอมี เช่น ตอนมาอยู่จีนแรกๆ ภาษาจีนแทบไม่กระดิก พอพูดได้ก็เฉพาะจุดหมายปลายทางที่ไปบ่อยๆ แต่สำเนียงก็อาจฟังไม่ค่อยรู้เรื่องนัก คุณน้าคุณลุงคนขับแท็กซี่ คงฟังต่างด้าวคนนี้ไม่ออก จึงเลือกที่จะซิ่งรถหนีไปเลย ปล่อยให้หนุ่มไทยยืนมองด้วยสายตาละห้อย
ถ้าถามว่า "เหตุการณ์ใช้บริการแท็กซี่ในจีน เหตุการณ์ใด ที่ประทับใจมากที่สุด?" สำหรับคำถามนี้ ผู้เขียนเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว นึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นาน
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะผู้เขียนกำลังใช้ชีวิตอย่างปกติในมหานครซีอาน อดีตเมืองหลวงเก่าของจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้เขียนเลือกที่จะเรียกแท็กซี่คันหนึ่งไปฝากท้องมื้อกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบ้านนัก
ด้วยผลกระทบของอารมณ์หิว พอแท็กซี่ถึงที่หมาย จ่ายค่าโดยสารเรียบร้อย ผู้เขียนจึงรีบสาวเท้าเดินไปยังเป้าหมายอย่างเร่งรีบ โดยลืมหันมามองว่ามีสิ่งผิดปกติได้เกิดขึ้นแล้วบนรถแท็กซี่
พอผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ถึงรู้ตัวว่า "ทำมือถือหาย" สันนิษฐานว่าน่าจะทำตกบนรถแท็กซี่ ตอนนั้นเริ่มใจเสีย เพราะที่จีน ข่าวเรื่องฉกมือถือ มีเยอะมาก และถ้าทำตกจริงๆ โอกาสได้คืนก็น้อยเช่นกัน
แต่ก็ลองเสี่ยงโทรเข้ามือถือเครื่องนั้นดู ปรากฏว่าติดต่อได้ โดยเป็นคุณลุงคนขับรถรับสาย ผลสรุปคือ ผู้เขียนทำมือถือหล่นไว้บนพื้น ตรงเบาะหลัง ซึ่งผู้โดยสารคนถัดมา พบมือถือ และส่งคืนคนขับรถ
คุณลุงคนขับแท็กซี่ผู้แสนใจดี จึงบึ่งรถเปล่านำมือถือมาคืนผู้เขียน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ (แต่ผู้เขียนก็ยื่นให้ เป็นค่าแท็กซี่ของลุง) แถมยังเตือนแบบผู้ใหญ่สอนเด็กแบบหอมปากหอมคอ ไม่ให้ประมาทเลินเล่อเช่นนี้อีก
ผู้เขียนต้องขอบคุณลุงขับแท็กซี่และคนที่เก็บมือถือส่งให้คุณลุงมากเลยครับ
ทั้งนี้ ขอฝากไว้ว่า ใครที่ขึ้นรถแท็กซี่ในเมืองจีน แนะนำให้ขอใบเสร็จทุกครั้งนะครับ เพราะในใบเสร็จมีรายละเอียดเบอร์โทร อาจจะเป็นเบอร์ศูนย์ ทะเบียนรถ และรายละเอียดอื่นๆ เช่น เวลาขึ้น-ลงรถ เอาไว้ใช้แจ้งความได้ และติดต่อรถแท็กซี่ได้
ทุกสังคมล้วนมีคนทุกรูปแบบ เราอาจจะมองว่า จีนนั้นน่ากลัว ไม่น่าอยู่ แต่ในทุกสังคมมีสิ่งดีดีปะปนกับสิ่งที่ไม่ดี ทั้งจีนและไทยเช่นกัน ขอแค่พวกเรามีน้ำใจต่อกัน ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือใหญ่ สังคมเราจะน่าอยู่มากขึ้นแน่นอน