จีนลุ้นมวยไท่เก๊ก ขึ้นทำเนียบมรดกโลกปีนี้ หวั่นเกาหลีใต้ชิงฯ ไป

ไชน่าเดลี่ (27 มี.ค.) รายงานว่า ในปีนี้ มวยไท่เก๊กหรือที่ภาษาจีนกลางเรียกว่า "ไท่จี๋เฉวียน" ของจีนได้รับการเสนอพิจารณาขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโลก หรือ UNESCO List of Intangible Cultural Heritage แล้ว

เจิ้ง ไอ่เจิน ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการเมืองของประชาชนจีน ประจำเหวินเซียน กล่าวว่า เอกสารยื่นเสนอขึ้นทะเบียนฯ ซึ่งจัดทำโดย เขตเหวินเซียน มณฑลเหอหนานนี้ ได้จัดทำมาตั้งแต่ปี 2549 แล้ว และตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทางผู้จัดทำรายงานฯ ได้รวบรวมข้อมูล จากผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์มวยมากมาย เพื่อร่วมกันสร้างชุดองค์ความรู้ทางวัฒนธรรมมวยไท่เก๊ก และรื้อฟื้นความถูกต้องทางประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายร้อยปีของมวยไท่เก๊ก ซึ่งเป็นมรดกล้ำค่าวัฒนธรรมจีน และเป็นความรับผิดชอบของพวกเราในการปกป้องให้คงอยู่สืบไป

จีนได้มีความจะผลักดันวิชาศิลปะป้องกันตัวให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเพื่ออนุรักษ์กับองค์การยูเนสโก ในปี พ.ศ. 2551 โดยเป็น 1 ใน 35 รายการขึ้นทะเบียนฯ จากจีนของปีนั้น แต่รายการศิลปะป้องกันตัวนี้ ได้ถูกถอนออกเนื่องจากคณะกรรมการมีความเห็นว่ายังคลุมเครือมากเกินไป

จาง หลี่หยง รองประธานสถานิติบัญญัติแห่งชาติ และประธานศาลฎีกามณฑลเหอหนาน กล่าวว่า ในปีนี้ ทั้งเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ก็พยายามจะจดทะเบียนมวยไท่เก๊กเป็นมรดกโลกในนามของตนเช่นกัน หลังก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้เคยขึ้นทะเบียนเทศกาลเรือมังกร ว่าเป็นของชาติตนเอง ดังนั้นจีนควรจะตื่นรู้ในเรื่องนี้

เฉิน เสี่ยวหวัง ครูมวยไท่เก๊ก กล่าวว่า การที่มีผู้อ้างว่ามวยไท่เก๊กมีต้นกำเนิดจากเกาหลีนั้น เป็นเพียงการอ้างอิงข้อมูลจากเรื่องแต่ ของนิยายกังฟูฮ่องกง หลุย ชา

เฉิน กล่าวว่า ถ้าปีนี้คำเสนอขึ้นทะเบียนของจีนยังตกไป หรือเป็นว่าเกาหลีใต้ได้เป็นเจ้าของมรดกโลกมวยไท่เก๊ก ก็คงจะเป็นเรื่องน่าเสียดายมาก

จู เซียงหวา วัย 40 ปี บุตรของครูมวยไท่เก็ก จู เทียนไช่ กล่าวว่า ตนเองรู้สึกถึงพันธกิจที่จะต้องปกป้องมวยไท่เก๊ก เพราะมวยไท่เก๊กมีรากหยั่งลึกในวัฒนธรรมจีน เช่นเดียวกับ การแพทย์จีน และสุนทรียศาสตร์ หรือสิ่งประดิษฐ์อื่นๆ