MGR Online – “อัศวิน ขวัญเมือง” ยกคณะเยือน “ชีว์ฟู่” เมืองมรดกโลกต้นกำเนิดขงจื๊อ รากวัฒนธรรมจีน สานความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว-การลงทุน-วัฒนธรรม-การศึกษา ยกระดับเรื่องจีนศึกษาในโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร ฝั่งจีนหยอดคำหวานจะหานักท่องเที่ยวให้เพิ่ม
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่โรงแรมแชงกรีลา เมืองชีว์ฟู่ เขตเมืองจี้หนิง มณฑลซานตง ประเทศจีน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะได้ร่วมหารือกับ นายสือ กวงเลี่ยง รองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองจี้หนิง และคณะ
นายสือ ระบุว่าทางเมืองจี้หนิงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ พล.ต.อ.อัศวิน นำคณะจากเมืองซึ่งมีชื่อเสียงและถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลกอย่างกรุงเทพมหานครมาเยือน พร้อมทั้งกล่าวแนะนำว่า เมืองจี้หนิงนั้นถือเป็นแหล่งวัฒนธรรมสำคัญของจีนและของโลก เนื่องจากมีเมืองในเขตปกครองคือชีว์ฟู่ (曲阜) ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ “ขงจื๊อ (孔子)” นักปราชญ์คนสำคัญของลัทธิขงจื๊อ และมีอิทธิพลอย่างมากต่อประวัติศาสตร์ การเมือง การปกครอง ปรัชญา และวิถีชีวิตของชาวจีนทั้งในประเทศและทั่วโลกตลอดสองพันกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามคนจีนเอง และคนต่างชาติมักจะคุ้นกับชื่อของเมืองชีว์ฟู่ มากกว่าเมืองจี้หนิง
“คนจีนบางส่วนเองอาจจะรู้จักเมืองชีว์ฟู่ แต่กลับไม่รู้จักเมืองจี้หนิงเลย ปัจจุบันเมืองจี้หนิงมีประชากรราว 8.5 ล้านคน มีพื้นที่ประมาณ 11,000 ตารางกิโลเมตร เมืองจี้หนิงผลิตบุคลากรสำคัญให้กับประเทศจีนมากมาย โดยนอกจากขงจื๊อแล้ว ยังมี ปราชญ์เมิ่งจื่อ เจิงจื่อ เหยียนจื่อ จื่อซือ ซึ่งถูกยกย่องให้เป็น 5 ปราชญ์สำคัญในประวัติศาสตร์จีนยุคโบราณ” รองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองจี้หนิง และว่าอิทธิพลของวัฒนธรรมขงจื๊อ ซึ่งเป็นรากฐานของวัฒนธรรมจีนนั้นแผ่ขยายไปทั่วโลก ขณะที่ปัจจุบันก็มีสถาบันขงจื๊อกระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 516 แห่ง สำหรับในประเทศไทยมีสถาบันขงจื๊อตั้งอยู่ 15 แห่ง โดยในกรุงเทพมหานครนั้นมีสถาบันขงจื๊อตั้งอยู่ถึง 6 แห่ง
ในเชิงเศรษฐกิจ เมืองจี้หนิงนั้นกำลังพัฒนาอย่างมาก โดยปี 2559 มีตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) กว่า 63,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 2.2 ล้านล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในภาคเกษตร เหมืองแร่ เคมีภัณฑ์ ยางพารา สิ่งทอ ขณะที่เป้าหมายในปี 2563 (ค.ศ.2020) มีการตั้งเป้าว่าจีดีพีของเมืองจี้หนิงจะต้องเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้ได้
รองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองจี้หนิงกล่าวต่อว่า ในด้านความร่วมมือทางการท่องเที่ยว ทางเมืองจี้หนิงอยากเรียนรู้จากกรุงเทพมหานครให้มาก ขณะเดียวกันก็อยากชักชวนชาวไทยให้มาท่องเที่ยวเมืองจี้หนิงให้เพิ่มมากขึ้น โดยชีว์ฟู่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของขงจื๊อนั้นมีสถานที่สามแห่งคือ วัดขงจื๊อ (孔庙) สุสานขงจื๊อ (孔林) และจวนตระกูลข่ง (孔府) ซึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ.1021 เพื่อระลึกถึงยอดนักปราชญ์ชาวจีนในสมัยยุคชุนชิวถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลก ตั้งแต่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 18 เมื่อปี พ.ศ.2537 และเป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากในประเทศจีนและทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านคนต่อปี ในทางกลับกันทางเมืองจี้หนิงก็จะชักชวนให้ประชากรไปเที่ยวกรุงเทพฯ ให้มากขึ้นด้วย
ในด้านวัฒนธรรม ทุกๆ ปีช่วงเดือนกันยายน ทางเมืองจะจัดให้มีเทศกาลนานาชาติวัฒนธรรมขงจื๊อ โดยทุกปีมีชาติต่างๆ หลายสิบชาติเข้าร่วม ส่วนทางเศรษฐกิจและการลงทุน ตนก็อยากให้นักลงทุนไทยมาลงทุนที่เมืองนี้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ในส่วนของข้อมูลการลงทุนของนักลงทุนไทยในเมืองจี้หนิง นายหลี่ เจิ้งถง หัวหน้าฝ่ายการลงทุนจากต่างชาติ แห่งสำนักพาณิชย์เมืองจี้หนิงให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ MGR Online ว่าปัจจุบันมีบริษัทไทยมาลงทุนในจี้หนิงประมาณ 5 บริษัท โดยบริษัทที่ใหญ่ที่สุดคือ บริษัทผลิตอาหารสัตว์ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ส่วนที่เหลือเป็นบริษัทที่มาลงทุนในจี้หนิงเพื่อปลูกพืชและผลไม้ส่งออกไปยังเกาหลีใต้ และภูมิภาคอาเซียน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวตอบว่า ตนและชาวไทยนับถือในความคิดและคำสั่งสอนของขงจื๊อ และยกย่องในประวัติศาสตร์อันยาวนานของปรัชญาจีนที่ตกทอดมาถึงปัจจุบัน ในส่วนของการศึกษาปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีโรงเรียนในสังกัด 438 แห่ง ห้องสมุด รวมไปถึงหอศิลป์ต่างๆ ตนจึงอยากได้ความร่วมมือทางด้านการเรียน วัสดุอุปกรณ์ รวมไปถึงหนังสือเรียนต่างๆ ที่เกี่ยวกับขงจื๊อและวัฒนธรรมจีน โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทางเมืองจี้หนิง
นอกจากนี้ในช่วงเช้าวันนี้ ทางคณะผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครยังได้รับเชิญให้เข้าชม และสักการะสถานที่สำคัญของเมืองชีว์ฟู่ คือ วัดขงจื๊อ และจวนตระกูลข่ง โดยมีนายข่ง เสียงหลิน ทายาทรุ่นที่ 75 ของขงจื๊อ และผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมขงจื๊อให้การต้อนรับ นำชมและบรรยายถึงจุดต่างๆ อย่างละเอียด ขณะเดียวกันยังได้รับเกียรติให้ร่วมปลูกต้นไม้มิตรภาพไทย-จีนที่บริเวณด้านหน้าของจวนตระกูลข่งอีกด้วย