ไฟแนนเชียลไทม์ รายงาน (13 มี.ค.) ว่า หลังมีการตรวจสอบพบข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจของ รัฐบาลท้องถิ่นมณฑลเหลียวหนิง ผิดความเป็นจริงย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 มาจนถึงปีที่แล้ว พ.ศ.2559
ล่าสุด สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังได้กล่าวถึงข้อมูลเศรษฐกิจเท็จของมณฑลเหลียวหนิง โดยกล่าวย้ำให้ผู้แทนสภานิติบัญญัติ ให้ลงโทษและปราบปรามการกระทำดังกล่าว
แต่มีเหลียวหนิงมณฑลเดียวหรือที่ปั้นแต่งข้อมูลเศรษฐกิจประจำมณฑล โดยแผนผังของไฟแนนเชียล ไทม์ส ได้แสดงให้เห็นความผิดปกติของข้อมูลอุตสาหกรรมถ่านหิน เหล็ก และน้ำมันใน 4 มณฑล
มณฑลซันซี ส่านซี และมองโกเลียใน นับเป็นแดนแห่งถ่านหิน ขณะที่เหลียวหนิงกับเหอเป่ย รวมกันมีสัดส่วนการผลิตเหล็กมากถึง 1 ใน 3 ของประเทศจีน
ในหลายภูมิภาค ที่พึ่งพิงทรัพยากรและเหล็กเป็นอุตสาหกรรมหลัก การขยายตัวของภาคบริการ การใช้จ่ายของผู้บริโภค ตลอดจนราคาสินทรัพย์ ล้วนมีผลต่อการจ้างงานและการเงินของรัฐบาล
แอนดี้ รอธแมน นักวิเคราะห์กลยุทธการลงทุนของแมทธิว เอเชีย กล่าวว่า จีนเองก็มีสายพานผลิตที่ขึ้นสนิมเหมือนสหรัฐ และอังกฤษ
แอนดรูว์ แบทสัน นักเศรษฐศาสตร์จาก Gavekal Dragonomics กล่าวว่า เหลียวหนิง เป็น 1 ใน 3 มณฑลทางตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัฒนา และมีความหลากหลาย ดังนั้น ควรที่จะมีตัวเลขผลงานที่ดีขึ้นไม่ใช่เลวลง
ในปี 2556 พรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ให้คำมั่นว่าจะใช้ระบบรวมตัวเลขเดียวในการรวบรวมจีดีพีประจำมณฑล และจะไม่อิงอาศัยหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นในการคำนวณตัวเลข และสำนักงานสถิติแห่งชาติในกรุงปักกิ่งจะเป็นผู้รับผิดชอบในกระบวนการนี้
จุดประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการสรุปตัวเลขระดับมณฑลที่สูงกว่าการเก็บข้อมูลในระดับชาติ ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติได้เผยแพร่แผนร่างสำหรับการรวมตัวเลขอย่างครบวงจรในปี 2557 และหนิง จื่อเจ้อ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวกับสื่อทางการ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า การรวบรวมนี้จะเริ่มต้นในปีนี้ 2560 และจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2563
ผู้สังเกตการณ์ต้องรอ 4 ปี ในการเปิดเผยตัวเลขที่แท้จริงของมณฑลเหลียวหนิง และกว่าจะรู้ว่าเศรษฐกิจที่แท้จริงของมณฑลทางเหนือของจีนเป็นอย่างไร ก็เมื่อรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติเผยฯ