MGR ONLINE/ปักกิ่ง—จีนเปิดการประชุมข่าวนัดใหญ่นอกรอบการประชุมสมัชชาประชาชนจีน (NPC) ในวันพุธ(8 มี.ค.) รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ นาย หวัง อี้ พบปะกับผู้สื่อข่าวในกรุงปักกิ่ง ลั่นจีนเป็นเสาหลักของเสถียรภาพระหว่างประเทศ เป็นพลังขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจโลก เป็นหัวหอกในการพัฒนาและสันติภาพ ตลอดจนอุทิศตัวเพื่อธรรมาภิบาลโลก
นายหวัง กล่าวว่านับตั้งแต่การประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน หรือซีพีซี ชุดที่ (18 National Congress of the Communist Party of China ชื่อย่อ CPC) ในปี 2012 การทูตจีนได้ผงาดขึ้นเผชิญกับปัญหาต่างๆและได้เปิดกว้างสู่แนวทางใหม่ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งเป็นใจกลางของพรรคฯ
“เราประสบความสำเร็จมากมาย และได้เปิดบทตอนใหม่ในการทูตของประเทศด้วยบุคลิกจีน” หวัง กล่าว
หวังได้สรุปการทูตจีนด้วยคำ 3 คำ คือ วิสัยทัศน์ ความริเริ่ม และความมั่นคง
วิสัยทัศน์ของจีนนั้น เป็นที่ประจักษ์จากการเสนอชุดความริเริ่มใหม่ และแนวความคิดที่สี จิ้นผิงได้แสดงต่อชาวโลก รวมถึงการสร้างคู่หุ้นส่วนที่คลี่คลายปัญหาเผชิญหน้าด้วยการเจรจา ตลอดจนร่วมกันสร้างชุมชนแห่งอนาคตที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมแบ่งปันเพื่อมนุษย์ชาติ
ความริเริ่มและแนวความคิดเหล่านี้นั้น “ลบล้างแนวความคิดเก่าเกี่ยวกับพันธมิตรและการเผชิญหน้า ทะยานขึ้นเหนือพ้นจากแนวทางเก่าๆของเกมส์ที่ต้องมีผู้แพ้-ผู้ชนะ (zero-sum games) มีบุคลิกเฉพาะของจีน และมีนัยสำคัญต่อโลก”
“สิ่งเหล่านี้เป็นหลักชี้นำการปฏิบัติสำหรับการดำเนินการด้านการทูตจีนในยุคใหม่ และมีนัยสำคัญที่ยาวไกลสำหรับการพัฒนาและความสำเร็จของมนุษย์ชาติ”
“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” กลายเป็นสินค้าสาธารณะยอดนิยม
อาจกล่าวได้ว่า ความริเริ่ม“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (Belt and Road Initiative) เป็นความริเริ่มเรือธงของจีน นาย หวัง อี้ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับความริเริ่ม“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ชี้ว่า ความริเริ่ม“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” กลายเป็นสินค้าสาธารณะยอดนิยม และเป็นเวทีความร่วมมือของนานาประเทศ ที่มีอนาคตสดใสที่สุดในโลก
ในเดือน พ.ค. ที่จะถึงนี้ จีนจัดงานช้างเปิดฟอรัมประชุมใหญ่ ความริเริ่ม“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ในกรุงปักกิ่ง ขณะนี้ มีกลุ่มผู้นำรัฐบาลและรัฐ มากกว่า 20 ราย และกลุ่มผู้นำองค์การระหว่างประเทศ กว่า 50 ราย เจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรี กว่า 100 คน รวมทั้งผู้แทนกว่า 1,200 จากประเทศและเขต ตอบรับเข้าร่วมประชุมฯ
ความริเริ่ม“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ถือกำเนิดในปี 2013 หลังจากที่สี จิ้นผิง ขึ้นครองอำนาจสูงสุดในจีนไม่กี่เดือน นาย หวัง กล่าวในที่ประชุมข่าววันนี้ ว่า ความริเริ่มฯ ดังกล่าว มาจากจีน แต่ “เป็นของโลก” โดยทุกประเทศต่างก็จะได้ผลประโยชน์
ขณะที่กระแสลัทธิปกป้องทางการค้า (protectionism) และลัทธิการกระทำฝ่ายเดียว (unilateralism) ตั้งเค้าระอุร้อนขึ้นแล้ว ความริเริ่ม“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” จะเป็นแนวทางร่วมของโลก ในการช่วยสร้างฟื้นสมดุลโลกาภิวัตน์ในด้านเศรษฐกิจ
ฟอรัม ความริเริ่ม“หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ในเดือน พ.ค. จะสร้างฉันทามติ และเชื่อมประสานยุทธศาสตร์การพัฒนาในประเทศต่างๆ อีกทั้งหยั่งตรวจสอบความร่วมมือในเขตสำคัญๆ บรรลุการตัดสินขั้นสุดท้ายในโครงการหลักของโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐาน การค้า การลงทุน การสนับสนุนทางด้านการเงิน และการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน
จีนพร้อมผลักดันความร่วมมือแบบลงลึกกับอาเซียน
รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศจีน ยังได้กล่าวถึงความร่วมมือกับอาเซียน (ASEAN) ว่าจีนพร้อมที่จะทำงานกับอาเซียน เพื่อเก็บเกี่ยวดอกผลประโยชน์ร่วมกันมากกว่านี้ เร่งผลักดันความร่วมมือเพื่อการเชื่อมโยงภายในภูมิภาคและเพิ่มความสามารถการผลิต
หวังกล่าวว่าจีนและชาติอาเซียนจะจับมือกันสร้างหลักประกันเพื่อประชาชนทั้งสองฝ่ายจะได้เสพผลประโยชน์จากการยกระดับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน (China-ASEAN Free Trade Area) โดยเร็วเท่าที่เป็นไปได้ และสรุปการเจรจา “ความตกลงพันธมิตรทางการค้าระดับภูมิภาคในอาเซียน” (Regional Comprehensive Economic Partnership /RCEP)