สื่อต่างประเทศรายงาน (8 มี.ค.) อ้างคำแถลงการณ์ต่อผู้แทนสภาปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน ระหว่างการประชุมประจำปี ให้หามาตรการเข้มงวดต่อสู้กับพ่อค้าของปลอม
แจ็ค หม่ากล่าวว่า หากบทลงโทษการผลิตหรือขายสินค้าปลอมยังเป็นเพียงโทษสถานเบา โลกคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรให้เกิดการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญหา และความปลอดภัยของอาหารและยา ตลอดจนการส่งเสริมให้คนสร้างนวัตกรรม
รายงานข่าวกล่าวว่า อาลีบาบา ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการไม่สามารถจัดการกับเหล่าสินค้าปลอมแปลง บนเว็บไซต์ขายออนไลน์ของตน โดยนายหม่ากล่าวถึงสินค้าปลอมฯ เหล่านั้น ว่าเป็นเหมือน "มะเร็ง" ของกิจการ และพยายามอย่างต่อเนื่องในการกำจัดของปลอมบนเว็บไซต์ด้วยการลบออกจากบัญชี และห้ามเข้ามาค้าขาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แม้อาลีบาบาจะเริ่มมีชื่อเสียงในอเมริกาแต่ก็เป็นชื่อเสีย เพราะติดอยู่ในบัญชีรายชื่อบริษัทที่น่าอับอายที่สุดในโลก เป็นเว็บไซต์ขายของปลอม ลอกเลียนแบบอย่างผิดกฎหมาย
รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า ระดับการปลอมแปลงและการละเมิดลิขสิทธิ์ ในปัจจุบัน มีระดับสูงขึ้นมาก บนเว็บไซต์เถาเป่า แพล็ตฟอร์มของอาลีบาบา โดยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2559 สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (United States Trade Representative) ประกาศขึ้นบัญชีดำเว็บไซต์ "เถาเป่า" ตลาดสินค้าออนไลน์ภายใต้อาณาจักรอาลีบาบา (Alibaba) ยักษ์ใหญ่ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ (e-commerce) หรือการซื้อขายสินค้าบนโลกออนไลน์ของแดนมังกรของ "แจ็ค หม่า" โดยจัดให้เป็น “ตลาดขายสินค้าอื้อฉาว” หลังกลุ่มผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าหรูหราพากันร้องเรียนว่า เถาเป่าตอบสนองการร้องเรียนเรื่องสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ไม่เต็มที่เท่าที่ควร
แจ็ค หม่า กล่าวว่า มีการเฝ้าระวังแต่ก็ไม่มีการจัดการ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับเสียงสุนัขเห่ากันขรม แต่ไม่กัด