สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน (6 มี.ค.) คำแถลงของกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ว่า งบประมาณด้านกลาโหมปีนี้อยู่ที่ราว 1 ล้านล้านหยวน หลังก่อนหน้านี้ โฆษกสภาที่ปรึกษาการเมือง เพิ่งแถลงว่างบประมาณดังกล่าวจะเพิ่มราวร้อยละ 7 ซึ่งต่ำที่สุดในรอบสิบปีที่ผ่านมา รับกับสภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ปรับลดเป้าหมายการเติบโต เป้าหมายทางเศรษฐกิจ โดยจะผลักดันอัตราเติบโตขยายตัวที่ร้อยละ 6.5 ต่ำลงจาก 6.7 เมื่อปีที่แล้ว
เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังจีน ได้กล่าวกับเอพี สำนักข่าวต่างประเทศ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ว่า ตัวเลขที่ชัดเจนของงบประมาณกลาโหม ซึ่งเปิดเผยให้กับผู้แทนเกือบ 3,000 คน ในสภาประชาชาชนแห่งชาติไปแล้วอยู่ที่ 1.044 ล้านล้านหยวน
รายงานข่าวกล่าวว่า สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ใช้งบประมาณกลาโหมมากที่สุด โดยล่าสุด รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเพิ่มร้อยละ 10 ขณะที่ประเทศจีน ซึ่งใช้งบประมาณกลาโหมมากเป็นอันสองรองจากสหรัฐฯ และถูกจับตามองจากนานาชาติ คาดหมายว่าคงจะเพิ่มงบฯ เป็นประวัติการณ์ ทว่ายังเป็นเพียง 1 ใน 4 ของสหรัฐเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กลาโหมจีน ไม่เคยเปิดเผยการใช้จ่ายงบประมาณเหล่านั้น เพียงแต่ชี้แจงว่างบประมาณส่วนใหญ่ใช้ในการปรับปรุงสภาพการทำงานและความเป็นอยู่ของทหารในกองทัพ
หนี่ เหล่อเซียง นักวิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยกฎหมายและการเมืองเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า สัดส่วนทีเพิ่มขึ้นปานกลางร้อยละ 7 นี้ เป็นระดับที่กำลังเหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง พร้อมกับสนับสนุนความมั่นคงเสถียรภาพในภูมิภาค ซึ่งแสดงความจริงใจของจีนที่จะคงไว้ซึ่งสันติ
ปีที่แล้ว จีนจัดงบประมาณป้องกันประเทศอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 9.54 แสนล้านหยวน (1.39 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่ช่วงหลายเดือนที่่ผ่านมา กองทัพเรือจีนได้เพิ่มบทบาทขึ้นมาเป็นลำดับ อาทิ การเปิดตัวของเรือบรรทุกเครื่องบินที่สร้างในประเทศจีนลำแรก ในบริเวณน่านน้ำที่อยู่ในเขตปกครองของไต้หวัน
สำหรับการจัดงบประมาณนี้ปีนี้ แม้จีนกำลังพยายามลดช่องว่างความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ แต่โดนัลด์ ทรัมป์ ยังทำให้รัฐบาลจีนสับสนกับการส่งสัญญาณการเมืองระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งรวมถึงกรณี ไต้หวัน และทะเลจีนใต้ นักการทูตชาวเอเชียในกรุงปักกิ่งคนหนึ่ง กล่าวแสดงความเห็นว่า จีนคงหวั่นว่านายทรัมป์จะกลับไปกลับมา คาดเดาได้ยาก จึงยังต้องเตรียมความพร้อมไว้