สื่อต่างประเทศรายงาน (8 ก.พ.) ผลการสำรวจของ Cleantechnica พบว่า ร้อยละ 20 ของรถบัส หรือรถโดยสารจีนที่มีการออกใหม่ เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยปีที่แล้วมีการออกรถบัสพลังงานไฟฟ้าจำนวน 115,700 คัน
รายงาน ระบุว่า เมื่อปี 2556 มีการซื้อและจำหน่ายรถบัสไฟฟ้าเพียง 1,672 คัน แต่เพียง 3 ปีถัดมายอดจำหน่ายกลับพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่เมืองเซินเจิ้น ก็มีแผนให้รถโดยสารทุกคัน (จำนวน 15,000 คัน) ที่วิ่งในเมืองเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ภายในปีนี้ (2560) ผลสำรวจยังคาดว่า เมื่อสิ้นปี 2558 นั้น รถบัสโดยสารที่มีใช้ทั่วโลกนั้น ราวร้อยละ 98 ล้วนอยู่ในประเทศจีน
เมื่อเดือนธันวาคมปลายปีที่ผ่านมา บีวายดี ค่ายผลิตรถยนต์ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เซินเจิ้น เป็นค่ายผู้ผลิตรถยนต์ระดับแนวหน้าของจีน มีอัตราการเติบโตของยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ร้อยละ 130 ในครึ่งแรกของปีนี้ 2016 และยังเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายสูงเป็นอันดับที่สองรองจากค่ายรถยนต์เทสลา (Tesla) ของสหรัฐอเมริกา
จีนก็เช่นเดียวกับเมืองใหญ่ทั่วโลก ทีเผชิญปัญหามลพิษอากาศทวีความรุนแรง แต่จีนก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงอย่างเงียบๆ และกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำ-ทำจริงด้านอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด ลดบทบาทของพลังงานฟอสซิล โดยเฉพาะการใช้น้ำมันกับรถยนต์
นอกจากนั้น แผนการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ระยะห้าปี (พ.ศ. 2559-2563) ของเอ็นอีเอ ยังมุ่งมั่นเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดหรือพลังงานที่ไม่ได้ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล (non-fossil fuel) ราวร้อยละ 20 ภายในปี 2573 จากร้อยละ 11 ในปัจจุบันอีกด้วย