รอยเตอร์ส - นับเป็นความเคลื่อนไหวทางการทหารที่สั่นประสาทไต้หวันและประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อสื่อแดนมังกรเผย เรือบรรทุกเครื่องบินลำที่สองของประเทศกำลัง “เป็นรูปเป็นร่าง” มากขึ้นหลังจากใช้เวลาก่อสร้างมานานกว่าสองปีเก้าเดือน
อ้างอิงรายงานของสถานีโทรทัศน์และวิทยุซันตงซึ่งเผยแพร่ผ่านแอพพลิเคชั่นมือถือในวันอังคาร (31 ม.ค.) ระบุว่า การต่อเรือบรรทุกเครื่องบิน “ซันตง” (Shandong) ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2557 ได้มีความคืบหน้าไปมากแล้วในปัจจุบัน แต่ไม่ได้เปิดเผยวันเสร็จสิ้นหรือรายละเอียดอื่นเพิ่มเติม
ก่อนหน้านี้กระทรวงกลาโหมของจีนแถลงว่า เรือฯ ซันตงกำลังถูกต่อขึ้นที่ท่าเรือในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิงทางจีนตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเป็นเรือฯ ที่จีนลงมือสร้างด้วยตัวเอง ขณะที่เรือฯ ลำแรกนาม “เหลียวหนิง” (Liaoning) ถูกซื้อต่อมาจากยูเครนในปี 2541 และยกเครื่องปรับโฉมใหม่ในจีน
เป็นที่คาดการณ์กันว่า หากเรือฯ ซันตงเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการแล้วจะสร้างความตึงเครียดแก่ไต้หวันซึ่งจีนอ้างความเป็นเจ้าของ ตลอดจนกลุ่มชาติอาเซียนอย่างบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งกำลังขัดแย้งกับปักกิ่งในประเด็นการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้
ทั้งนี้ จีนแผ่นดินใหญ่และไต้หวันมีการปะทะกันทางการทูตและการทหารนับตั้งแต่ปี 2492 หลังจากกองกำลังของพรรคก๊กมินตั๋งพ่ายแพ้แก่พรรคคอมมิวนิสต์ในสงครามกลางเมืองจนต้องถอยร่นหนีไปยังเกาะไต้หวัน และแม้ทุกวันนี้การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวระหว่างสองฝ่ายจะเติบโตอย่างมีนัยยะตลอดสามทศวรรษที่ผ่านมาแต่ความบาดหมางก็ยังคงคุกรุ่น โดยเฉพาะหลังจากนางไช่ อิงเหวิน จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีไต้หวันในปีก่อนเนื่องจากเธอสนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระ ขณะที่ปักกิ่งยืนกรานว่าพร้อมใช้กำลังเข้ายึดครองไต้หวันหากมีการประกาศอิสรภาพขึ้นมา