กลุ่มสื่อต่างประเทศรายงาน (24 ม.ค.) ผู้ประกอบการจีนพร้อมใจคว่ำบาตรโรงแรมญี่ปุ่นบิดเบือนประวัติศาสตร์โศกนาฎกรรมนานกิง
เมื่อไม่นานมานี้ นักท่องเที่ยวจีนซึ่งพักที่ “เอพีเอ” (APA) โรงแรมดังแดนอาทิตย์อุทัย ได้อ่านหนังสือในห้องพักโรงแรม และพบข้อความของ นายโทชิโอะ โมโตยะ (Toshio Motoya) ประธานบริษัท APA กรุ๊ป เขียนปฏิเสธประวัติศาสตร์สงครามที่นานกิงและกรณีหญิงจีนที่ถูกจับไปเป็นนางบำเรอแก่ทหารญี่ปุ่นอย่างโหดเหี้ยม โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่ “เป็นไปไม่ได้”
เรื่องราวดังกล่าวนำมาซึ่งความเดือดดาลบนโลกโซเชียลแดนมังกร พร้อมกับเรียกร้องให้เครือโรงแรม APA แถลงขอโทษ นอกจากนี้ชาวเน็ตจีนยังรณรงค์ให้คว่ำบาตรโรงแรมดังกล่าว
ต่อมาเพียงไม่นาน “จาง ลี่จง” โฆษกกรมการท่องเที่ยวจีนได้ออกมาแสดงท่าทีต่อต้านการ “ยั่วยุ” ของเครือโรงแรมเอพีเอ เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวจีนร่วมกันต่อต้านการกระทำที่ไม่ถูกต้องของโรงแรมฯ โดยหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายในโรงแรมดังกล่าว พร้อมกันนี้ โฆษกจางยังชักชวนให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของจีน ระงับความร่วมมือใดๆต่อเครือโรงแรมดังกล่าวโดยสิ้นเชิง
รายงานระบุว่า เว็บไซต์บริการด้านการท่องเที่ยวของจีน หลายแห่ง เช่น ซีทริป (Ctrip), เอ๋อร์หลง (eLong) ได้พร้อมใจกันปลดชื่อโรงแรม APA ออกจากเว็บไซต์แนะนำที่พักของตนแล้ว
ทางด้านโรงแรมดังก็ได้ออกมาปกป้องตนเองโดยอ้าง “เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” โดยระบุว่า พวกเขายอมรับว่าการตีความทางวัติศาสตร์อาจมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ แต่ขอให้เข้าใจว่าหนังสือดังกล่าวไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการวิพากษ์วิจารณ์ประเทศใดโดยเฉพาะ หนังสือดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านการตีความประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่มีพื้นฐานจากความเป็นจริงเท่านั้น
ทั้งนี้ “การสังหารหมู่นานกิง” (Nanjing Massacre) หรือรู้จักกันในนามการข่มขืนนานกิง (อังกฤษ: Rape of Nanking) เกิดขึ้นเป็นเวลาหกสัปดาห์หลังญี่ปุ่นยึดนครหนันจิง อดีตเมืองหลวงของสาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2480 ระหว่างสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่สอง โดยนักประวัติศาสตร์และพยานบุคคล ประเมินกันว่ามีประชาชนหนันจิงถูกฆ่า 250,000 ถึง 300,000 คน
เหตุการณ์สังหารหมู่ฯ นี้ ยังเป็นประเด็นพิพาททางการเมืองระหว่างจีนกับญี่ปุ่นมาตลอด โดยญี่ปุ่นไม่เคยยอมรับว่าได้กระทำการดังกล่าว และอ้างว่ามีการบรรยายเกินจริง หรือแต่งเรื่องขึ้น อย่างไรก็ตามการปฏิเสธการสังหารหมู่มักเป็นความเห็นจากลัทธิชาตินิยมญี่ปุ่นในญี่ปุ่น ขณะที่ความเห็นต่อการสังหารหมู่มีหลากหลาย และมีน้อยคนที่ปฏิเสธเหตุการณ์นี้ หลายคนกล่าวว่า การยอมรับความจริงที่ไม่อาจลืมของเหตุการณ์นี้ จะเป็นบทเรียนที่ควรจดจำเพื่อโลกจะไม่ยอมให้เกิดซ้ำอีก