รอยเตอร์ส - ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าจีน-อังกฤษ ได้ถึงสถานีบาร์กิ้ง ทางตะวันออกของกรุงลอนดอนแล้ว เมื่อวันพุธที่ 18 มกราคม หลังออกเดินทางจากสถานีรถไฟอี้อูตะวันตก ในมณฑลเจ้อเจียง เมื่อวันที่ 1 มกราคม
รอยเตอร์ส รายงาน (19 ม.ค.) ว่า ขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าจีน-อังกฤษ ได้ถึงสถานีบาร์กิ้ง ทางตะวันออกของกรุงลอนดอนแล้ว เมื่อวันพุธที่ 18 มกราคม หลังออกเดินทางจากสถานีรถไฟอี้อูตะวันตก ในมณฑลเจ้อเจียง เมื่อวันที่ 1 มกราคม
รายงานข่าวกล่าวว่า รถไฟบรรทุกสินค้าจีน-อังกฤษ ได้ถึงสถานีบาร์กิ้ง ทางตะวันออกของกรุงลอนดอนแล้ว เมื่อวันพุธที่ 18 มกราคม หลังออกเดินทางจากสถานีรถไฟอี้อูตะวันตก ในมณฑลเจ้อเจียง เมื่อวันที่ 1 มกราคม เพื่อมุ่งสู่เมืองหลวงของอังกฤษ ระยะทาง 12,000 กิโลเมตร ใช้เวลา 18 วัน ผ่านคาซัคสถาน, รัสเซีย, เบลารุส, โปแลนด์, เยอรมนี, เบลเยียม ฝรั่งเศส และลอดอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ ปลายทางกรุงลอนดอน
รายงานข่าวกล่าวว่า รถไฟขบวนนี้ ได้พาตู้บรรทุกสินค้าประเภทเครื่องใช้ในบ้าน กระเป๋า เสื้อผ้า และสิ่งทอต่างๆ จำนวน 34 ตู้คอนเทนเนอร์ สู่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ โดยเป็นขบวนรถไฟระยะทางยาวพอๆ กับขบวนรถไฟจากจีนไปเยอรมนี และจีนไปสเปน โดยขบวนรถไฟอี้อู้-มาดริด จากจีนสู่สเปน เป็นขบวนรถไฟวิ่งระยะทางยาวที่สุดในโลก
ระหว่างการเดินทาง ขบวนรถไฟนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนหัวจักร เนื่องจากความแตกต่างของขนาดความกว้างรางรถไฟที่วิ่งผ่านในแต่ละประเทศ
คาร์สเทน พอททาร์สท ผู้จัดการของอินเตอร์เรล กรุ๊ป กิจการรถไฟสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารถไฟสามารถเดินทางถึงประเทศอังกฤษได้โดยใช้เวลาไม่ถึง 18 วัน และเสริมว่า ถ้าหากสินค้าจากกรุงลอนดอนไปจีนมีมากขึ้น ยังสามารถเพิ่มขบวนสายตะวันออกได้อีก
ออสการ์ หลิน ผู้จัดการ โอทีที โลจิสติกส์ สำนักงานจองตั๋วรถไฟในอังกฤษ กล่าวว่า เป็นการทดสอบครั้งแรกของการเดินทาง และเพื่อสำรวจความต้องการของตลาดสินค้าในประเทศอังกฤษ ซึ่งเพียงช่วง 2 สัปดาห์นี้ ได้รับการสอบถามรายละเอียดจำนวนมาก ทั้งที่ยังไม่ได้ประชาสัมพันธ์ใดๆ
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เทเรซา เมย์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์กับจีนยังคงเปล่งปลั่งดังทอง ซึ่งกำลังคาดหมายการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในจีน
ซินหวารายงานว่า ลอนดอนเป็นเมืองที่ 15 ในยุโรป ที่เพิ่มเส้นทางให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างทวีปและประเทศจีน
ทั้งนี้ เส้นทางรถไฟ เป็นหนึ่งในวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ซึ่งเปรียบเสมือนยุคใหม่ของเส้นทางสายไหม อันก่อให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยผู้นำจีน หวังให้เป็นการปรับปรุงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจของจีนกับยุโรป และตะวันออกกลาง
