เอเอฟพี – เศรษฐีจีนทุบสถิติประมูลพระราชลัญจกรล้ำค่าของเฉียนหลงฮ่องเต้สมัยศตวรรษที่ 18 ด้วยการทุ่มเงินกว่า 780 ล้านบาทในการประมูลที่ปารีสเมื่อวันพุธ (14)
วานนี้ (14 ธ.ค.) ในการเปิดประมูล พระราชลัญจกรของฮ่องเต้เฉียนหลง แห่งราชสำนักจีนสมัยศตวรรษที่ 18 โดยสำนักประมูลดูฮูต์ (Drouot) ในกรุงปารีส วัตถุทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ขนาดเท่าฝ่ามือที่ทำจากแร่สเตียไตต์ (Steatite) หรือ หินสบู่สีแดงปนขาวถูกประมูลไปด้วยราคา 21 ล้านยูโร หรือราว 788 ล้านบาท จากเศรษฐีชาวจีนผู้ไม่เปิดเผยนาม
พระราชลัญจกรที่ประดับด้วยมังกร 9 ตัว อันแสดงถึงพระราชอำนาจสูงสุดขององค์ฮ่องเต้ ตกอยู่ในความครอบครองของแพทย์ทหารเรือชาวฝรั่งเศสผู้ซึ่งไปเยือนจีนในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และกลายเป็นมรดกของครอบครัวเขานับตั้งแต่นั้น
ในตอนแรกอลิซ โจเซม ผู้เชี่ยวชาญด้านงานศิลปะเอเชียเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เขาคาดว่าหนึ่งในพระราชลัญจกรล้ำค่าของจักรพรรดิจีนชิ้นนี้น่าจะประมูลได้ราคาราว 8 แสนยูโรถึง 1 ล้านยูโร (ราว 30-37.5 ล้านบาท) แต่เอาเข้าจริงราคาเคาะสุดท้ายกลับพุ่งขึ้นไปสูงกว่าที่คาดไว้ถึง 20 เท่า ทั้งยังทำลายสถิติราคาประมูลพระราชลัญจกรจักรพรรดิจีนก่อนหน้านี้ที่เคยทำสถิติที่ 14 ล้านยูโร หรือราว 525 ล้านบาทไปอย่างราบคาบ
สำนักประมูลดูฮูต์เปิดเผยข้อมูลด้วยว่า ในรัชสมัยของฮ่องเต้เฉียนหลงมีการจัดทำพระราชลัญจกรกว่า 1,800 ชิ้น ทว่า สูญหายไปราว 700 ชิ้น ขณะที่อีก 1,000 กว่าชิ้นถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังพระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่ง
สำหรับจักรพรรดิเฉียนหลง (乾隆; ค.ศ.1711-1799) หรือ ฮ่องเต้ชิงเกาจง (清高宗) นั้นเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ชิง ราชวงศ์แมนจูที่ปกครองจีนอยู่เกือบสามร้อยปี โดยเฉียนหลงถือเป็นจักรพรรดิที่ปกครองจีนยาวนานที่สุดพระองค์หนึ่ง โดยเสด็จสวรรคตเมื่อมีพระชนมายุ 87 พรรษา ในปี ค.ศ.1799 ทั้งนี้ภายใต้การปกครองของพระองค์ประเทศจีนถือว่ารุ่งเรืองจนถึงขีดสุด จนอาจนับได้ว่าเป็นชาติมหาอำนาจแนวหน้าของโลกในเวลานั้น ภายหลังจากที่พระองค์เสด็จสวรรคต ประเทศและสังคมจีนก็ก้าวเข้าสู่ยุคเสื่อมถอย
