MRG ONLINE/เอเจนซี--นักกีฬาเหรียญชัยโอลิมปิก ฟู่ หยวนฮุ่ย ดังระเบิดและกลายเป็นขวัญใจชาวเน็ตจีนจากการแสดงออกทางใบหน้าและท่าทางที่ดูตลกๆน่ารักๆ แต่ยอดนักว่ายน้ำท่ากรรเชียงสาวผู้นี้ จะสามารถแปรความเด่นดังที่ได้มาอย่างไม่คาดคิดนี้ เป็นโชคลาภในอนาคตหรือไม่นั้น ก็ยังเป็นสิ่งไม่แน่นอน
ฟู่ วัย 20 ปี ชาวหังโจว อาจได้อยู่ในสนามแข่งขันว่ายน้ำต่อไปเป็นเวลาหลายปี ขณะเดียวกันก็เป็นรู้กันดีอยู่ว่านักกีฬาจีนหลายคนต้องออกจากสนามแข่งขันตั้งแต่อายุยังน้อยๆ และเผชิญชีวิตที่ยากลำบาก
นักกีฬาบางกลุ่มต้องอำลาสนามแข่งขันไป เพราะสภาพร่างกายที่บาดเจ็บอ่วมจากการฝึกฝนอย่างหนัก
“มีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าฉันเจ็บปวดมากแค่ไหน ตอนฝึกฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะตายจริงๆ”
ฟู่เป็นนักกีฬาโอลิมปิกคนแรกที่ชนะเหรียญทองแดงจากการแข่งขันว่ายน้ำท่ากรรเชียงรอบสุดท้ายในวันที่สามของการแข่งขันโอลิมปิก เกมส์ 2016 ณ กรุงริโอ เดอ เจเนโร
ลำพังความสามารถของฟู่ มิได้ส่งให้เธอโด่งดังแบบเปรี้ยงปร้าง หากเป็นเพราะการให้สัมภาษณ์หลังการแข่งขันที่ทำให้เงือกสาวนักกรรเชียงผู้นี้ กลายเป็นขวัญใจชาวเน็ต ฮิตระเบิด ดึงดูดแฟนๆอีกนับล้านทั้งในจีนและต่างประเทศ
หลังการแข่งขันในวันที่ 9 ส.ค. นักข่าวสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือซีซีทีวี ได้บอกแก่เธอว่า เธอชนะเหรียญทองแดง
“อะไรนะ?!” ฟู่ที่เข้าใจว่าตนแพ้ อุทาน
“ฉันชนะที่สามหรือ? ไม่รู้เลย!” ฟู่ตอบอย่างตื่นเต้น เบิ่งตาโต
เป็นที่รู้กันทั่วปฐพีว่าเหล่านักกีฬาจีนล้วนแต่วัยละอ่อน อย่างเช่นสมาชิกในทีมนักกีฬายิมนาสติกหญิง อายุ 16-20 ปี
ราชินีดำน้ำ อู๋ หมิ่นซย่ามีอายุเพียง 30 ปี และกลายเป็นนักดำน้ำคนแรกที่ชนะเหรียญทองโอลิมปิก 5 เหรียญ
เช่นเดียวกับนักกีฬาอื่นๆ อู๋ต้องบาดเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า และเธอก็ตัดสินใจแล้วว่าการแข่งขันที่ริโอ จะเป็นการลงสนามโอลิมปิกครั้งสุดท้าย
“อาการบาดเจ็บเป็นอุปสรรคต่อการฝึกและการแข่งขัน มันทำให้ฉันมีแผลเป็น แต่ก็ดีใจที่ครั้งนี้ยังสามารถฝึกได้อย่างปกติ อย่างไรก็ตาม ฉันรู้ดีว่าการฟื้นตัวเป็นไปได้ยากมาก” อู๋เขียนในไมโครบล็อก “เวยปั๋ว” (คล้ายทวิตเตอร์) เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
สำหรับอู๋อาจไม่มีความวิตกกังวลเรื่องการเงินหลังจากแขวนชุดว่ายน้ำ นับเป็นโชควาสนาของเธอที่นักกีฬาหลายๆคนไม่มี
อู๋ เสี่ยวเซวียน แชมป์โอลิมปิกหญิงคนแรกของจีน ชนะเหรียญทองในการแข่งขันยิงปืนในการแข่งขัน ปี 1984 ที่ลอสแองเจลิส เกมส์
หลังจากที่ออกจากสนามแข่งขัน อู๋ย้ายไปอยู่ที่อเมริกาในปี 1991 ใช้ชีวิตเงียบๆ ในที่สุดก็ทำงานที่โรงงานทำหมวกในสหรัฐฯ สถานีโทรทัศน์แห่งจีน (ซีซีทีวี) รายงานเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
โจว ชุนหลัน แชมป์นักยกน้ำหนักหญิงในทีมชาติจีน ก็ต้องมาเป็นคนงานถูพื้นในโรงอาบน้ำสาธารณะ
จนตรอกถึงกับเป็นขอทาน
ชีวิตนักกีฬาที่สุดรันทดและช็อกชาวจีน คือ จาง ซั่งอู่ แชมป์ยิมนาสติกโลก จางฝึกฝนตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ กระทั่งได้รับเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติลงสนามแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลก (World University championships) ปี 2001 และชนะเหรียญทอง 2 เหรียญ
แต่อนาคตของเขาก็ขาดผึ่งไปพร้อมกับเอ็นร้อยหวายข้างซ้ายขาดในการฝึกฝนเมื่อปี 2002 จึงชวดได้รับเลือกเป็นนักกีฬาลงสนามแข่งใน 2004 โอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงเอเธนส์ และต้องออกจากวงการนักกีฬาในปี 2005 โดยรัฐบาลท้องถิ่นมณฑลเหอเป่ย บ้านเกิดของเขาจ่ายเงินช่วยเหลือแบบครั้งเดียว 38,000 หยวน หรือราว 190,000 บาท จากนั้นเขาก็กลายเป็นเด็กส่งของ อาการบาดเจ็บของเขาแย่ลงๆจนเดินไม่ได้เป็นเวลานาน
ช่วงที่ปู่ของเขาป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง จางต้องขายเหรียญทอง 2 เหรียญที่ชนะในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกในราคาไม่ถึง 20 ดอลลาร์ เพื่อเอาเงินมาซื้ออาหารกิน ช่วงปี 2007 เขาจนตรอกถึงกับขโมยแล็ปท็อปและโทรศัพท์มือถือในโรงเรียนกีฬาที่ปักกิ่ง ถูกตัดสินจำคุก 4 ปี เมื่อออกจากคุกในปี 2011 ก็พยายามแสดงกายกรรมตามริมถนน ขอเงิน นอนตามอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
จางบอกว่า ชีวิตบีบคั้นจนต้องมาเป็นขอทานตามสถานีรถไฟใต้ดิน เนื่องจากไม่มีการศึกษาและต้องการเงินไปรักษาโรคร้ายของปู่
เนื่องจากนักกีฬาจีนส่วนใหญ่ เริ่มเข้าสู่วงการกีฬาตั้งแต่ยังเด็ก ได้รับการศึกษาเพียงเล็กน้อย ทำให้ต้องดิ้นรนหางานอย่างยากลำบากหลังจากที่อำลาสนามกีฬา
ข้อมูลสถิติจีนเผยในปี 2012 เกือบครึ่งของนักกีฬาจีนที่ออกจากวงการไป ล้มเหลวในการหางานทำ ขณะนี้หน่วยงานที่ดูแลด้านการกีฬาได้เปิดคอร์สการฝึกฝน 10 คอร์สในแต่ละปีสำหรับนักกีฬาที่ออกจากวงการไปแล้ว เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ และหางานอาชีพ
แม้กระทั่งนักกีฬาที่ดังระเบิดอย่าง ฟู่ ที่มีโอกาสได้สปอนเซอร์ และทำรายได้จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์ แต่ก็ต้องสะดุดตอจากนโยบายที่เข้มงวดของรัฐบาล ที่ขีดเส้นจำกัดสิ่งที่เขาทำได้
นักว่ายน้ำทีมชาติต้องได้รับอนุญาตจากศูนย์บริหารการว่ายน้ำ (Swimming Administrative Centre ชื่อย่อ SAC) ก่อนจึงสามารถเจรจากับสปอนเซอร์ได้
“นักกีฬาไม่สามารถเซ็นสัญญาฝ่ายเดียวกับสปอนเซอร์หรือบริษัท” นโยบายของรัฐจีน ระบุ
นักกีฬาว่ายน้ำ หนิง เจ๋อเทา ก็ประสบปัญหาเนื่องจากเขาไม่ได้แจ้งแก่ SAC ก่อนเซ็นสัญญาเชิงพาณิชย์กับบริษัทนมรายใหญ่ อีลี่ ในช่วงราวหนึ่งปีที่ผ่านมา
ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าหนิงรับทรัพย์จากบริษัทเท่าไหร่ แต่วงการก็คะเนจากระดับชื่อเสียงและความหล่อเหลาของเขา ก็น่าจะทำเงินถึงหนึ่งพันล้านหยวนในช่วง 5 ปีจากกิจกรรมเชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม หนิงค่อยๆสะสางข้อพิพาทกับผู้คุมกฎกีฬาว่ายน้ำ และได้ลงสนามโอลิมปิกในริโอ