ซั่งไห่อิสต์ สื่อจีนรายงาน (19 ก.ค.) ชาวจีนในหลายเมืองพากันรวมตัวรณรงค์ต่อต้านสินค้า และร้านอาหารอเมริกัน หลังคำตัดสินข้อพิพาททะเลจีนใต้
สืบเนื่องจากคำพิพากษาเป็นที่สุดคดีข้อพิพาททะเลจีนใต้ของศาลอนุญาโตตุลาการ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ซึ่งตัดสินว่า จีนไม่มีสิทธิตามกฎหมายเหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้ ขณะที่รัฐบาลจีนยืนยันไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการนั้น
“ฮ่องกง อีโคโนมิก เจอร์นัล” (Hong Kong Economic Journal) สื่อฮ่องกงระบุว่า ชาวจีนผู้รักชาติจำนวนมาก ได้พากันเลิกกินร้านอาหารสัญชาติสหรัฐฯ เช่น “เคเอฟซี” (KFC) “แม็คโดนัลด์” (McDonald's) และ “พิซซ่าฮัท” (Pizza Hut)
วันอาทิตย์ (17 ก.ค.) ชาวบ้านราว 300 คนในเมืองเล่อถิง มณฑลเหอเป่ย ได้พากันรวมตัวหน้าร้านเคเอฟซี พร้อมถือป้ายข้อความรณรงค์ไม่ให้ผู้คนอุดหนุนร้านอาหารต่างชาติ “กินอาหารร้านเคเอฟซีจากสหรัฐฯ เป็นการย่ำยีศักดิ์ศรีบรรพบุรุษเรา” นอกจากนี้ มวลชนยังได้บุกเข้าไปในร้านฟาสต์ฟู้ดดัง และพากันล้อมกรอบตะโกนสาปแช่งลูกค้าซึ่งกำลังกินอาหารอยู่ที่โต๊ะอาหาร
ก่อนหน้านี้ ชาวจีนจำนวนมากได้พากันทุบทำลาย “ไอโฟน” สมาร์ทโฟนยอดนิยมของโลก เพื่อประท้วงคำตัดสินฯ และได้พากันอวดรูปซากไอโฟนลงบนโลกโซเชียล อย่างไรก็ดี มีหลายคนจับผิดว่ารูปดังกล่าวอาจเป็นรูปที่ดาวโหลดมาจากอินเทอร์เน็ต เนื่องจากใต้ภาพมีข้อความจากระบบแสดงขึ้นว่า “ภาพได้ถูกอัพโหลดโดยใช้ไอโฟน”
มีรายงานว่าเมื่อไม่นานมานี้ ผู้โดยสารชายคนหนึ่งถูกทำร้ายบนรถไฟฟ้าใต้ดินเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ด้วยข้อกล่าวหาว่า เขาแสดงสัญลักษณ์การสนับสนุนสหรัฐฯ โดยการใส่รองเท้ายี่ห้อ “ไนกี้” (Nike) ทำเอาผู้โดยสารอีกคนที่สะพายกระเป๋ายี่ห้อเดียวกัน รีบลุกเดินหนีไปอย่างไว
นอกจากนี้ ยังมีกระแสต่อต้านสินค้าและบริการจากต่างประเทศ เช่นจากประเทศสหรัฐฯ ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ด้วยเหตุผลว่าเงินทองที่อุดหนุนสินค้าจากประเทศเหล่านี้ จะไปเสริมสร้างสมรรถนะให้แก่กองทัพต่างชาติ โดยความเห็นหนึ่งในโลกออนไลน์ระบุว่า “ถึงฉันจะไม่ได้ไปออกรบในแนวหน้า แต่ฉันไม่จะยอมให้เงินของฉันกลายไปเป็นกระสุนปืนให้กองทัพศัตรู”