สื่อจีนรายงาน (6 ส.ค.) ตำรวจเมืองเซินเจิ้น เขตเศรษฐกิจพิเศษชื่อดังในมณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ผุดมาตรการใหม่ในการปราบปรามผู้ที่ข้ามถนนโดยฝ่าฝืนสัญญาณไฟ โดยการลงโทษให้สวมหมวกสีเขียว และเสื้อกั๊กสีเขียว
ผู้ที่ฝ่าฝืนสัญญาณไฟฯจะถูกลงโทษให้สวมหมวกและเสื้อกั๊กสีเขียวซึ่งมีข้อความรณรงค์ให้ข้ามถนนอย่างถูกกฎ ให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก และไปยืนตามสี่แยกที่มีการจราจรคับคั่ง
มาตรการดังกล่าวเป็นที่กริ่งเกรงของบรรดานักวิ่งข้ามถนน เนื่องจาก “สวมหมวกสีเขียว” นั้น ในสังคมจีนมีความหมายว่าชายผู้ซึ่งภรรยาแอบลักลอบคบชู้ การถูกบังคับให้สวมหมวกสีเขียวจึงเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างยิ่ง บางคนที่ถูกจับได้จึงไม่ยอมใส่หมวก และยินดีที่จะเสียค่าปรับ 20 หยวน หรือราว 100 บาทแทน
ตำรวจเซินเจิ้นระบุว่าพวกเขาได้ปราบปรามผู้ข้ามถนนโดยฝ่าฝืนสัญญาณไฟไปแล้วราว 11,000 คน โดยหลายคนมักติดนิสัยข้ามถนน “สไตล์จีน” โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน และยืนยันว่าสาเหตุที่หมวกเป็นสีเขียวนั้น ก็เพราะว่าจะได้เข้ากันกับสีของเสื้อกั๊กซึ่งเป็นสีเขียว ไม่ได้มีนัยะพิเศษอื่นใด
องค์การอนามัยโลก หรือ ฮู (WHO) ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจากการข้ามถนนโดยฝ่าฝืนสัญญาณไฟในประเทศจีนราว 200,000 คนในทุกๆปี
ชาวเน็ตแดนมังกรต่างชื่นชมมาตรการใหม่นี้ โดยต้องการให้มีบทลงโทษที่รุนแรงมากกว่านี้กับผู้ที่ชอบข้ามถนนโดยฝ่าฝืนกฎ โดยเห็นว่าเงินค่าปรับ 20 หยวน หรือราว 100 บาทมีจำนวนน้อยมากเกินไป