นานมาแล้ว มีชายขี้อิจฉาผู้หนึ่งเห็นผู้อื่นมีเงินมีทองใช้เพราะการเปิดโรงรับจำนำก็อยากจะทำกับเขาบ้าง ดังนั้นเขาจึงไปเลียบๆ เคียงๆ สอบถามข้อมูลกับเถ้าแก่เจ้าของโรงรับจำนำใหญ่โตในอำเภอว่า “เถ้าแก่ ถ้าอยากเปิดโรงรับจำนำแบบเถ้าแก่เนี่ยต้องใช้เงินสักเท่าไหร่?”
“ถ้าลื้อจะเปิดใหญ่หน่อยก็ต้องใช้สักหมื่นตำลึงทอง แต่ถ้าเล็กลงมาหน่อยก็สักพันตำลึงทองก็คงพอ” เถ้าแก่ตอบ
พอได้ฟังคำตอบชายขี้อิจฉาถึงกับอ้าปากค้าง ทั้งยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียว อีกวันหนึ่งจึงไปเลียบๆ เคียงๆ ถามเถ้าแก่โรงรับจำนำอีกแห่งหนึ่งในตำบลด้วยคำถามเดียวกัน ก่อนได้รับคำตอบว่า “เอาจริงๆ ถ้าลื้อเปิดเล็กๆ แบบพอตัว มีทุนสักร้อยตำลึงทองก็น่าจะเปิดร้านรับจำนำได้แล้ว”
ชายขี้อิจฉารู้ตัวดีกว่าตัวเองไม่มีทุนมากขนาดนั้น อีกวันหนึ่งจึงเอ่ยปากถามชาวบ้านในตลาดเรื่องทุนทรัพย์ในการเปิดร้านรับจำนำ จนได้รับคำตอบจนเป็นที่พอใจว่า “จะทำธุรกิจรับจำนำไม่ต้องใช้ทุนเทินอะไรหรอก แค่มีโต๊ะรับเงิน ป้ายรับจำนำ กับตั๋วจำนำไม่กี่ใบก็เพียงพอ”
ได้ฟังดังนั้นชายขี้อิจฉาก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง รีบกลับบ้านไปหาอุปกรณ์สามอย่างข้างต้นมาเปิดเป็นแผงลอยรับจำนำอยู่กลางตลาด
วันรุ่งขึ้น ชาวบ้านคนหนึ่งเดินถือของเข้ามาติดต่อที่แผงรับจำนำ หลังจากชายขี้อิจฉาตรวจสอบสิ่งของดูแล้ว ก็เขียนขยุกขยิกบนตั๋วรับจำนำ ก่อนยื่นตั๋วจำนำให้กับลูกค้าพลางกล่าวว่า “ไอ้เงินจำนำที่ข้าจะให้เจ้าในวันนี้น่ะ ยังไงๆ วันที่เจ้ากลับมาไถ่ของก็ต้องเอามาคืนข้าอยู่แล้ว เอาอย่างนี้แล้วกันไม่ต้องมากเรื่องมากความ วันที่เจ้ามาไถ่ของคืนน่ะ แค่เอาดอกมาให้ข้าก็พอ ส่วนเงินจำนำฝากเอาไว้ที่นี่น่ะแหละ!”
เรียบเรียงจาก 《笑林广记》โดย โหยวซี่จู่เหริน (游戏主人), ราชวงศ์ชิง