xs
xsm
sm
md
lg

วิกฤต 'กำแพงเมืองจีน' สูญสลายเหลือเพียง 1 ใน 3 เท่านั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กำแพงเมืองจีนได้รับการดูแลอย่างดี เป็นระยะทางเพียงแค่ 8.2% เท่านั้น ในขณะที่อีก 74.1% อยู่ในสภาพย่ำแย่ (ภาพเอพี)
เอเจนซี - สื่อจีนรายงานกำแพงเมืองจีนอันตรธานไปแล้วเกือบ 2,000 กิโลเมตร เหลือความยาวเพียงแค่ 1 ใน 3 ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นใส่ใจดูแลเพียงแค่ 8% ของระยะทางทั้งหมดเท่านั้น

กำแพงเมืองจีน หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นสิ่งก่อสร้างที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) สร้างในยุคสมัยจิ๋นซีฮ่องเต้แห่งราชวงศ์ฉิน (247 - 220 ก่อนคริสตกาล) โดยเป็นการประติดประต่อกำแพงส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน เริ่มแรกมีความยาวราว 5,000 กิโลเมตร หลังจากนั้นก็ได้รับการบูรณะต่อเติมเรื่อยมาหลายครั้ง ตั้งแต่ในสมัยของราชวงศ์ฮั่น เรื่อยไปถึงราชวงศ์หมิง  ซึ่งในสมัยราชวงศ์หมิงได้มีการต่อเติมกำแพงให้ยาวต่อไปจากมณฑลกันซู่ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ไปถึงมณฑลเหลียวหนิงในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกราว 8,000 กิโลเมตร แบ่งเป็นปราการตามธรรมชาติประมาณ 2,000 กิโลเมตร และเป็นส่วนที่มนุษย์สร้างขึ้นอีกราว 6,000 กิโลเมตร กำแพงเมืองจีนที่พบเห็นในปัจจุบันส่วนใหญ่ ได้ถูกต่อเติมขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิงนี้เอง ซึ่งปัจจุบันกำแพงเมืองจีนในหลายพื้นที่กำลังเสี่ยงต่อการพังทลาย

รายงานของไชน่า เกรท วอลล์ โซไซตี้ (China Great Wall Society) ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยกำแพงเมืองจีน ระบุว่ากำแพงเมืองจีนที่ต่อเติมในสมัยราชวงศ์หมิง ได้รับการดูแลอย่างดีเพียงแค่ 8.2% เท่านั้น ขณะที่อีก 74.1% อยู่ในสภาพย่ำแย่ โดยมีส่วนที่เสียหายจนสูญสิ้นไปแล้วถึง 1961.6 กิโลเมตร

ถึงแม้ว่ากำแพงเมืองจีนถูกสร้างจากอิฐและหิน แต่ก็ไม่สามารถทนต่อการกัดเซาะของลมฝน และปัญหาดินทรุดตัวได้ นอกจากนี้ ต้นไม้ที่งอกขึ้นมาจากกำแพงก็ช่วยเร่งให้กำแพงพังทลายเร็วขึ้นอีกด้วย

มนุษย์เองก็มีส่วนสำคัญในความเสื่อมของกำแพงเมืองจีน เช่น ระหว่างพ.ศ. 2500- 2520 ภัยธรรมชาติได้ทำให้หมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองหลูหลง มณฑลเหอเป่ย พังทลายลงหลายครั้ง ชาวบ้านจำนวน 365 ครัวเรือนไร้ที่อยู่อาศัย จึงตัดสินใจช่วยกันขนย้ายอิฐของกำแพงเมืองจีนที่อยู่ใกล้ๆ มาสร้างอาคารบ้านเรือน กำแพงตึก ห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ ไปจนถึง คอกหมู หรือเล้าไก่ หลังจากนั้น ชาวบ้านบางส่วนยังนำอิฐจากกำแพงเมืองจีนมาสลักอักษรจีน เพื่อจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวในราคาก้อนละ 30 หยวนหรือราว 150 บาทอีกด้วย

นอกจากนั้นชาวบ้านในบางพื้นที่ยังนำอิฐกำแพงเมืองจีนไปขายให้ผู้รับเหมา ก้อนละ 15 หยวนหรือราว 75 บาท เพื่อบดเป็นผงและนำไปใช้ซ่อมถนน และกำแพงฯ บางส่วนยังเสียหายจากการลักลอบทำเหมืองเถื่อนอีกด้วย

การที่นักท่องเที่ยวเริ่มสนใจกำแพงเมืองจีนในส่วนที่ยังไม่ได้มีการบูรณะก็เป็นปัญหาเช่นกัน โดยที่ผ่านมากำแพงเมืองจีนเกิดความเสียหายหลายส่วน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมมากเกินกว่าจำนวนที่จะรองรับได้ และยังมีนักท่องเที่ยวที่ทิ้งขยะ สร้างความสกปรกบนกำแพง

รายงานระบุว่ารัฐบาลท้องถิ่นสนใจจะดูแลเฉพาะกำแพงฯ บางส่วนเป็นระยะทางสั้นๆ ซึ่งสามารถทำเงินได้จากนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยียนเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ก็ปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม กำแพงที่ถูกทิ้งร้างในบางพื้นที่พังทลายลง ขาดตอนเป็นช่วงๆ บางช่วงมีความยาวเพียงไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น

พ.ศ. 2549 จีนได้ประกาศใช้กฎหมายคุ้มครองกำแพงเมืองจีน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ากฎหมายดังกล่าวไม่ได้มีเนื้อหาที่ชัดเจนเพียงพอ และไม่ได้ถูกนำมาบังคับใช้อย่างจริงจัง และถูกมองว่าเป็นเพียงแค่เสือกระดาษเท่านั้น

กำลังโหลดความคิดเห็น