เอพี - จีนรวบตัวกลุ่มพนักงานบ้านพักคนชราเอกชนทางตอนกลางของประเทศ หลังจากเกิดไฟไหม้รุนแรงจนคร่าชีวิตผู้เฒ่าและผู้พิการไร้ทางหนีมากกว่า 30 คน
สำนักข่าวซินหวา รายงาน (27 พ.ค.) ว่า ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวบุคคลอย่างน้อย 12 คน รวมถึงตัวแทนทางกฎหมายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานพักฟื้นและดูแลผู้สูงอายุคังเล่อหยวน ซึ่งประสบเหตุเพลิงไหม้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของสำนักปฏิบัติการด้านความปลอดภัยท้องถิ่นระบุว่า กรณีไฟไหม้เกิดขึ้นในคืนวันจันทร์ (25) ที่บ้านพักคนชราซึ่งมีผู้อยู่อาศัยราว 51 คน ในเมืองผิงติ่งซัน มณฑลเหอหนัน โดยพบผู้เสียชีวิต 38 ราย และบาดเจ็บ 6 คน
“ฉันกำลังนอนอยู่บนเตียง ทันใดนั้นก็เห็นคนงานวิ่งออกจากห้องที่เกิดไฟไหม้ เขาตะโกนเสียงดังว่า ‘หนี! หนี!’ ฉันเลยรีบตามออกไป” คำบอกเล่าของกัว ซิ่น วัย 78 ปี
ผู้รอดชีวิตอีกราย เจ้า อี้ว์หลัน วัย 82 ปี กล่าวว่ามีเพียง 2 คน จากทั้งหมด 11 คน ในห้องพักของเธอที่รอดชีวิตมาได้ โดยสื่อทางการจีนรายงานว่า เหยื่อเคราะห์ร้ายบางส่วนไม่สามารถระบุรูปพรรณสัณฐานได้ เนื่องจากร่างกายถูกเผาไหม้อย่างรุนแรง
เปลวเพลิงได้ผลาญทำลายบ้านพักของคนเฒ่าคนแก่ ที่บางส่วนเป็นผู้พิการหรือป่วยเป็นโรคอัมพาต และจำต้องพึ่งพาการดูแลเอาใจใส่จากผู้อื่น โดยซินหวาอ้างผู้เฒ่าวัย 80 ปี เฉิน รุ่นเซิง ระบุว่าจำนวนพนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลนั้นไม่เพียงพอกับภาระงานที่มีอยู่
ด้านนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง กล่าวยกอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นบทเรียนสอนเจ้าหน้าที่รัฐทั่วประเทศ และกระตุ้นการตรวจตราความปลอดภัยรอบด้านเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ทำนองนี้ในอนาคต โดยล่าสุดหน่วยงานกู้ภัยออกคำสั่งตรวจสอบสถานพักฟื้น โรงเรียนอนุบาล ศูนย์ดูแลเด็ก และโรงพยาบาลทั่วประเทศ
ปัจจุบันจีนกำลังเผชิญวิกฤตประชากรผู้สูงอายุขยายตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งสวนทางกับระบบประกันสังคมที่ยังบกพร่องทั้งคุณภาพและปริมาณ โดยซินหวาเผยภาวะขาดแคลนบุคลากรดูแลผู้ป่วยหรือคนชราในประเทศ ด้วยจำนวนผู้ปฏิบัติงาน 220,000 คน แต่มีอากงอาม่ารอการดูแลกว่า 10 ล้านคน
โศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดจึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องย้ำเตือนอันแสนเจ็บปวดว่า การอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุบนแดนมังกรยังคงต่ำกว่ามาตรฐาน ขณะที่ปัญหาความขาดแคลนก็สื่อว่าผู้คนบางส่วนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทนมีชีวิตอยู่ในสถานพยาบาลที่ไม่มีความครบครัน
